Digital Photography   Audio & Video   Computer Accessories   Software Applications | Home
....

Denon AVR-3200G  AV Receiver รุ่น Classic
 

 


รูปที่ 1   Denon AVR-3200G AV Receiver


รูปที่  Remote Control

รูปที่
3   Panasonic DVD - A300

  เมื่อประมาณ 15 - 16 ปี ที่ผ่านมา จำได้ว่า มีเครื่องเล่น DVD ออกมาขายใหม่ๆ และมีเพียงไม่กี่ยี่ห้อ ที่เด่นมากในขณะนั้น คือเครื่องเล่น DVD ของ Panasonic รุ่น DVD-A300 (รูปที่ 3) ซึ่งออกแบบมาได้สวย และเล่นได้ดี วางขายในราคาประมาณ 34,000 บาท และในสมัยนั้น แผ่น DVD มีขายน้อยมาก ราคาแพงแผ่นละประมาณ 1,400 - 1,500 บาท ซึ่งบางร้านก็รับสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ

เครื่องเล่น
DVD ในสมัยแรกๆ ที่ขายในประเทศไทย จะเล่นได้สำหรับแผ่น Zone 3
(เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทย ฮ่องกง เกาหลี อินโดนีซีย มาเลเซีย ฟิลิปินส์ ฯลฯ) และไม่สามารถสั่งบันทึกลงเครื่องอื่นได้ คือมีการ Lock ไว้ที่ตัวเครื่องเล่น ต่อมาได้มีบางร้าน นำเครื่องเล่น DVD ที่มีการ Modify ให้เล่นแผ่นหลายๆ Zone ได้ และบันทึกลงเครื่องอื่นได้ ถ้าต้นฉบับภาพยนตร์นั้น ไม่ได้ป้องกันเอาไว้

เมื่อมีเครื่องเล่น
DVD และภาพยนตร์ที่บันทึกเป็น DVD ออกมาขาย ระบบเสียงก็ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น จากระบบ Pro Logic เป็นระบบ Dolby Digital 5.1หรือเรียกกันว่า AC3  ด้วยภาพที่ชัดมากในระบบ DVD และเสียงที่ดีมากในระบบ Dolby Digital 5.1 จึงทำให้มีผู้นิยมและลงทุนซื้อชุดเครื่องเสียงกันใหม่ เพื่อให้มี Home Theatre ใช้ที่บ้าน

ผู้เขียนได้สนใจติดตามเครื่องเล่นเหล่านี้มานาน ตั้งแต่เปลี่ยนจากเทป
VHS มาเป็น VCD ซึ่งคุณภาพก็ไม่ดี ดูเหมือนว่า VCD จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนจากระบบเทป และอนาลอก มาเป็นระบบดิจิตอล และ VCD ก็มีใช้แพร่หลายอยู่ระยะหนึ่ง จนถูกแทนที่ด้วย DVD ซึ่งต่อไป ก็จะถูกแทนที่ด้วย BD (Blu-ray Disc) จากการพัฒนาดังกล่าว จึงได้ซื้อเครื่องเล่น DVD Panasonic DVD-A300 พร้อมกับ AV Receiver ของ Denon รุ่น AVR-3200G ซึ่งเป็นรุ่นที่เสียงดีมาก เพื่อนำมาใช้เป็นชุด Home Theater  โดยซื้อในปลายปี 2540 นับเป็นเวลาประมาณ 17 ปีมาแล้ว (ละในปัจจุบันก็ยังใช้ได้ดี)

เครื่อง
AV Receiver ในสมัยก่อนนั้น รองรับระบบ Stereo, Dolby Pro Logic, Dolby Surround และ Dolby Digital 5.1 ยังไม่รองรับระบบเสียง DTS  หรือ Digital Theater Systems ซึ่งในปัจจุบันใช้กันมากในแผ่น Blu-ray ดังนั้น พอมาถึงวันนี้ ถ้านำเครื่องเล่น Blu-ray มาเล่นกับเครื่อง AVR-3200G ก็เล่นได้ จะต้องเลือกระบบเสียงให้เป็น Dolby Digital 5.1 หรือ ระบบ 3.1 หรือ 2.1 เท่านั้น เสียงจึงจะออก
ซึ่งส่วนใหญ่ แผ่น
Blu-ray จะมีระบบเสียง DTS มาเป็นหลัก ถ้าหาระบบ Dolby Digital 5.1 ก็จะมีที่เรียกว่า เสียงภาษาไทย 5.1 คือเป็นพากย์ไทย ซึ่งอาจทำให้คุณภาพเสียง Drop ลงไป ฟังนานๆแล้วดูเหงาๆ และเสียง Background อาจจะไม่สมบูรณ์ หรือบางที เราก็อาจจะเบื่อเสียงคนพากย์เดิมๆ ตัวแสดงกี่คนกี่คน ก็เสียงคล้ายๆกันหมด

การจัดชุด
Home Theater นั้น ถ้าจะให้ได้ระบบที่ดี อุปกรณ์ทุกชิ้น มีความสำคัญ เช่น ลำโพง จะต้องคัดเลือก ลำโพงหน้า ลำโพงกลาง ลำโพงหลัง (Surround) และ Subwoofer รวมทั้งสายสัญญาณที่มีคุณภาพดี เมื่อติดตั้งระบบแล้ว ควรจะต้องวางตำแหน่งลำโพงให้เหมาะสม แล้วทำการปรับตั้งค่าต่างๆที่ตัว AVR Receiver คือทำ System Setup ก่อน ซึ่งสำหรับเครื่อง Denon AVR - 3200G แนะนำให้ตั้งค่าต่างๆ เช่น Speaker Configuration, Delay Time ฯลฯ  การตั้งค่า Speaker Configuration รวมถึงการตั้งให้แต่ละลำโพงมีความดังมากน้อยตามที่ ต้องการ และการตั้ง Delay Time กับระยะห่างของลำโพงไปยังผู้ฟัง ก็มีความสำคัญ เพื่อให้ได้เสียงที่ดีสมจริงมากยิ่งขึ้น

การทำ
System Setup นั้น ถ้าอ่านคู่มือเข้าใจ สามารถทำได้เอง โดยใช้ Remote Control และเปิด TV ให้มี On Screen Display มาจากเครื่อง AVR Receiverก่อน แล้วก็ทดลองไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าได้ผลดีเป็นที่พอใจแล้ว ก็จะใช้ไปได้นานทีเดียว
 


รูปที่ 4   ภาพขยาย Denon AVR-3200G AV Receiver
ปุ่มที่ใช้งานมากๆ เช่น 1 (Stereo), 2 (Dolby Surround), 3 (Analog/Digital), 4 (DVD), 5 (TV)

  การใช้ Denon  AVR - 3200G AV Receiver
เครื่อง AV Receiver รุ่นนี้ เป็นรุ่นที่เสียงดีมาก มีฝาด้านข้าง เป็นไม้ ในสมัยเมื่อ 17 ปี ที่แล้ว ซื้อมาในราคาประมาณ 55,000 บาท  การใช้งาน ส่วนใหญ่ใช้เมื่อต้องการชมภาพยนตร์ และเพื่อเป็นการถนอมเครื่อง จึงได้ติดพัดลมระบายความร้อนไว้ที่ด้านหลังของเครื่องด้วย  ในด้านการใช้งาน ถ้าเล่น DVD มักจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเล่น Blu-ray Disc จะต้องเลือกตั้งระบบเสียงที่ไม่ใช่ DTS มิฉะนั้น เสียงจะไม่ออก และอาจจะต้องเริ่มต้นใหม่ คือเอาแผ่นออก แล้วเริ่มโหลดใหม่  บางครั้ง จำเป็นต้องปิดเครื่องก่อน แล้วเปิดเครื่องใหม่ เลือกระบบเสียงใหม่ นั่นคือประเด็นที่เครื่องนี้ออกมานานมากแล้ว ไม่ Support ระบบเสียง DTS

ที่เขียนอธิบายเรื่องนี้ขึ้นมา ก็เพราะคงจะมีผู้ใช้ระบบ
Home Theater คล้ายๆกับของผู้เขียนอีกมากมาย ที่ตัว AV Receiver ไม่รองรับระบบ DTS แต่อยากจะเล่น Blu-ray Disc ก็อาจจะประสบปัญหาเดียวกัน

วิธีแก้น่ะหรือ ง่ายนิดเดียว ก็ซื้อ
AV Receiver ใหม่ ที่รองรับระบบต่างๆ รวมทั้งมี HDMI Input / Output การต่อสายก็ง่ายขึ้น แต่ควรจะต้องพิจารณาเรื่องคุณภาพเสียงให้มากๆก่อนซื้อว่าจะดีเท่าตัวเก่าหรือไม่ และเจ้า AV Receiver ตัวเก่า ก็ยังใช้ได้อยู่ จะเอาไปทำอะไร
  Specifications โดยย่อ
  Rated Output  
  Front 80 W + 80 W (8 Ohms, 20 Hz - 20,000 kHz with 0.05% T.H.D.)
  Center 80 W (8 Ohms, 20 Hz - 20,000 kHz with 0.05% T.H.D.)
  Surround 80 W + 80 W (8 Ohms, 20 Hz - 20,000 kHz with 0.05% T.H.D.)
     
  Power Consumption 320 W
  Weight 16.2 kg
     

จากวันที่ 3 เมษายน 2554
ปรับปรุงล่าสุด : 16 .. 2557

Hit Counter