Digital Photography Audio & Video Computer Accessories Software Applications | Home |
Amplifier
แบบที่ใช้หลอด สำหรับเครื่องเสียงรถยนต์ |
|
ในสมัยก่อนที่จะมีทรานซิสเตอร์ เครื่องเสียง และเครื่องอิเลคทรอนิกส์ต่างๆ
ใช้หลอด (Vacuum Tube) และต่อมาก็มีวิทยุทรานซิสเตอร์เข้ามาแทนที่ จนทำให้นักเล่นเครื่องเสียงที่ใช้ Pre-Amp และ Amplifier ที่ใช้หลอด เหลือไม่มากนัก ผู้เขียนเป็นรายหนึ่งที่เล่นและสร้างวิทยุ รวมทั้ง Pre-Amp และ Amplifier มาหลายเครื่อง ตั้งแต่สมัย ยังเป็นเด็ก โดยมีแหล่งที่นิยมไปซื้ออะไหล่และอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ที่บริเวณบ้านหม้อ และร้านแถวๆคลองถม เพราะในสมัยนั้น ไม่มีเงินที่จะไปหาซื้อวิทยุและ Amplifier มาใช้ได้ จึงต้องสร้างขึ้นมาเอง ต่อมาเมื่อมี ทรานซิสเตอร์ขายมากขึ้น จึงได้หันมาสร้างวิทยุและ Amplifier ที่ใช้ทรานซิสเตอร์แทน โดยไม่ได้มีโอกาส ที่จะเปรียบเทียบคุณภาพเสียง เมื่อยุคของดิจิตอล เข้ามาแทนที่อนาลอก ไปบางส่วน จะเห็นได้ว่า เดิมเราเล่นเทปแบบ Reel ม้วนโตๆ ให้ เสียงที่ดีมาก ต่อมา เปลี่ยนเป็น CD เสียงที่ได้ก็ฟังเป็นเสียงดิจิตอลอยู่ดี นอกจากจะใช้อุปกรณ์ที่มีราคาแพง มากๆ ก็อาจจะได้เสียงที่ดีขึ้น จำได้ว่าในสมัยนั้น ผมไม่ยอมรับเสียงจาก CD อยู่นาน และใช้เทป Reel ไป เรื่อยๆ จนในที่สุดเทป Reel เริ่มหาซื้อได้ยากและเทปที่อัดเพลงสำเร็จมา ก็ยิ่งหายากขึ้น และก็ได้มีเทป Cartridge และเทป Cassette ออกมาแทนที่ สามารถใช้ฟังเพลงในรถยนต์ได้ ต่อมา เทป Cassette ก็แพ้ไป เหลือแต่เพียงเทป Cassette อย่างเดียว ซึ่งครองตลาดอยู่นานมาก และก็มี CD ออกมาแทน ในปัจจุบัน รถยนต์รุ่นใหม่ๆ สามารถเล่นอุปกรณ์ต่างได้มากมาย เช่น CD, DVD, Thump Drive - mp3, iPod เป็นต้น แต่แทบจะไม่มีรถคันไหนเลย ที่ให้เครื่องเสียงที่มีคุณภาพดีๆมา ดังนั้น ผู้ที่นิยมฟังเพลง ที่ต้องการคุณภาพเสียงดี จึงต้องนำรถไปติดเครื่องเสียงใหม่ ส่วนใหญ่ จะถอดของเดิมออกทั้งหมด ตั้งแต่ ตัว Front รวมลำโพงและสายสัญญาณ ดังนั้น การติดตั้งระบบเสียงใหม่ให้ดี ในรถยนต์จึงมีราคาแพงมาก ยิ่งในปัจจุบัน นิยมใช้ระบบ Multimedia ติดจอ LCD สำหรับดูวิดีโอ และรับโทรทัศน์ และยังมีระบบ GPS อีก ทำให้ค่าติดตั้งสูงอาจจะ 1 - 2 แสนบาททีเดียว ทั้งๆที่เครื่องเสียงและอุปกรณ์ในรถยนต์มีอายุ การใช้งานสั้นกว่าเครื่องเสียงบ้านมาก และเมื่อขายต่อรถยนต์ออกไป ผู้ที่ซื้อ แทบจะไม่ตีราคาให้กับระบบ เครื่องเสียงเลย อย่างไรก็ตาม ถ้าเราต้องใช้รถยนต์มากๆ และรถก็ติด วันหนึ่งๆอาจจะต้องนั่งอยู่ในรถหลายชั่วโมง เครื่องเสียง ทีดี ก็จะช่วยได้มาก ดังนั้น จึงต้องมาทบทวนดูว่า เรามีงบประมาณจะติดเครื่องเสียงเท่าไร และจะเลือก อุปกรณ์ยี่ห้อใดมาใช้ ซึ่ง เราเองคงต้องรับฟังจากผู้ติดตั้ง จากร้านติดตั้งเครื่องเสียงชั้นนำ และต้องไป ทดลองฟังเสียงก่อน แต่เสียงที่ฟังในห้อง กับในรถยนต์ของเรา อาจจะแตกต่างกัน สำหรับการเลือกอุปกรณ์นั้น ตัว Amplifier ก็มีส่วนสำคัญมาก โดยทั่วๆไป เราใช้ Amplifier แบบ Solid State พวกที่ใช้ทรานซิสเตอร์ และ Integrated Circuits ก็นับว่าดี และมีความคงทนมากพอ สมควร มียี่ห้อดังๆหลายยี่ห้อ แม้กระทั่ง MacIntosh ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าดีและแพงและโก้ด้วย แต่ ก็ยังพอมีทางเลือกที่น่าสนใจเกิดขึ้น เนื่องจาก ได้มีผู้นำ Amplifier สำหรับติดรถยนต์ แบบที่ใช้หลอด (Vacuum Tube) ผสมกับทรานซิสเตอร์ มาจำหน่ายแล้ว เข้าใจว่าคงจะมีมากกว่า 7 ยี่ห้อ ซึ่งเท่าที่ค้นหา มาจากเว็บไซต์ ได้แก่ : 1. Kamaz Germany, 2. US. Amps, 3. Purist Audio - Super Tube One 4. Butler Audio Inc., 5. STATUS Tube Devils, ![]() 6. Milbert Amplifiers , 7. Musee Amplifier (Japan) ![]() เป็นต้น ซึ่งความจริง แอมป์เหล่านี้ ใช้หลอดเพียง 2 - 4 หลอด นอกนั้นเป็นพวก Solid State และเข้าใจว่า หลอดใช้ในภาคปรีแอมป์ เพื่อให้เสียงมีคุณภาพดียิ่งขึ้น แต่ถ้าใช้หลอดมากๆ หรือประเภท All Tubes Car Amp เช่น BaM - 235ab ก็จะเหมือนแอมป์บ้าน ที่มีขนาดใหญ่ Kamaz Germany เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Amplifier แบบที่ใช้หลอด สำหรับรถยนต์ GPS ฯลฯ ในที่นี้ เราจะเน้นเฉพาะตัว Amplifier ซึ่งมีรุ่นที่น่าสนใจ 2 รุ่น คือ Kamaz The Masterpiece 4.300 และรุ่น the Masterpiece 2.300 ซึ่งมี Specifications ตามที่แสดงไว้ใต้รูปที่ 1 และ 2 Butler Audio Inc. เป็นผู้ผลิตเครื่อง Amplifier ที่ใช้หลอด ซึ่งมีทั้งแบบที่ใช้กับกีตาร์ (Tube Driver Guitar Pedal) ชุด Home Audio, Amplifier และ Amplifier ที่ใช้สำหรับชุดเครื่องเสียงในรถยนต์
คุณภาพเสียง ความคงทน และ ราคา จะเป็นอย่างไรนั้น
จะติดตามกันต่อไป
|
วันที่ 10
พ.ค. 2553
ปรับปรุง 18 พ.ค.
2553