|

รูปที่ 1 |

รูปที่ 2 |

รูปที่ 3 |

รูปที่ 4 |

รูปที่
5 |

รูปที่
6
ชุดเครื่องเสียง Hi-Fi Stereo
ที่ใช้ทดลองฟังเสียง
|
|
|
การ Copy เพลงจากแผ่น CD
หลายๆแผ่น โดยเลือกเพลงที่ชอบ
บางแผ่นอาจจะได้เพลงเดียว
บางแผ่นได้หลายเพลง นำมารวมกันนั้น เพื่อที่จะรวบรวมมาบันทึกลงแผ่น CD-R เอาไว้ฟังที่บ้าน
หรือฟังในรถยนต์ นั้น เราควรจะค่อยๆทำโดยเลือกเพลงที่ชอบจริงๆ นำมาแปลงให้เป็น Audio Files
เสียก่อน แล้วเก็บไว้ใน Hard Disk
หรือใน Folder ให้ได้มากพอ แล้วเริ่มมาเปิดฟังทีละเพลงๆ เพื่อเช็คระดับความดังเพลงจากบางแผ่น เสียงจะค่อยเมื่อเทียบกับเพลงจากอีกแผ่นหนึ่ง ดังนั้น ควรจะทำการปรับระดับความดัง
(Volume) แล้วทำการแปลงไฟล์ใหม่ จากนั้น
ทำรายการเพลงทั้งหมด แล้วมาเลือกอีกครั้งว่าในแผ่นรวมเพลงโปรดของเรา จะให้เพลงใดขึ้นก่อน เรียงลำดับเพลงให้ไปด้วยกันได้ หรือถ้ามีเพลงร้องมากๆ ก็อาจสลับด้วยเพลงบรรเลงบ้าง เวลาฟังจะได้เป็นการผ่อนคลายและไม่เบื่อง่าย
ขั้นตอนต่างๆ สรุปได้ดังนี้
:
เปิดโปรแกรม Nero Start Smart
ตามรูปที่
1
เลือก Audio
(1)
และเลือก
Convert Audio CDs to Audio Files
(2)
ใส่แผ่น CD เพลงลงเข้าไป
เมื่อเครื่องโหลดแผ่นเสร็จแล้ว จะได้รายการเพลงปรากฎขึ้น ตามรูปที่
2
ข้อ (3)
ซึ่งอาจจะไม่มีชื่อเพลงให้เห็น ดังนั้น เราจะต้องลองฟังเพลงก่อน เช่นเลือกที่
(3)
แล้วกดเลือกฟังเพลง
(4)
สามารถปรับความดังได้ที่ Volume
(5)
เลือกนามสกุลของไฟล์ที่ต้องการ เช่น .wav
(6)
แล้วเลือกว่าจะให้ไฟล์เพลงที่แปลงแล้ว ไปเก็บไว้ที่ใด
(7)
ในขั้นตอนนี้ สามารถเลือก ความเร็วในการอ่านได้
(8)
จากนั้น คลิก Go
(9)
โปรแกรมก็จะเริ่มทำการแปลงไฟล์ ไปเก็บไว้
รูปที่
3
แสดงการทำงานของโปรแกรมขณะแปลงไฟล์
หมายเหตุ
: (13
ก.ย.
2553)
จากรูปที่
3 จะเห็นปุ่ม
Settings
(10A)
ซึ่งปกติ
จะตั้งค่า Default ไว้ที่ 44100 Hz
และ 16 Bits จากการทดลองตั้งค่าใหม่
เป็น 48000 Hz และ
24 Bits แล้วบันทึกเพลงลงแผ่น
CD พบว่าให้เสียงที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ขั้นตอนการเลือกเพลงมารวมกันเพื่อ
Burn ลงแผ่น
CD
กลับไปรูปที่ 1 เลือก Make
Audio CD (2A)
จากรูปที่
4
คลิก Add
(11)
แล้วเลือกไฟล์เพลงที่ได้เก็บรวบรวมไว้ใน Folder
เข้ามา
(12)
เพลงที่เลือกมาเป็นเพลงแรก จะได้หมายเลข 1
คือเริ่มเล่นก่อน และเราสามารถเลือกเพลงลำดับที่ 2, 3, 4, ...
ได้ตามต้องการ จากนั้น ปรับแก้ชื่อเพลงให้ถูกต้องและควรปรับระดับเสียงให้ใกล้เคียงกันโดย เลือก Normalize all audio
files (13)
จากนั้นคลิก Next
(14)
ก่อนที่จะ Burn ลงแผ่น CD
ตามรูปที่
5
เราสามารถตั้งชื่อ Title
(15)
แล้วคลิกที่(16)
เพื่อตั้ง Writing Speed (17)
ซึ่งควรจะเลือกความเร็วในการเขียนแผ่นที่ต่ำที่สุดซึ่งจะทำให้ได้เสียงดี (แต่การ Write
จะใช้เวลานาน)
และถ้าต้องการหลาย Copy ก็ระบุจำนวนจำนวนที่ต้องการได้ จากนั้น ก็คลิก
Burn (18)
เป็นอันสิ้นสุดกระบวนการ
ผลการใช้งาน
ผู้เขียนได้ทำการ Copy
เพลงจากแผ่น CD เพลงเก่าๆ จำนวนมาก
บางแผ่นมีอายุกว่า
30 ปี และบางแผ่นก็ใหม่ นำมารวมกันได้อย่างดี
แต่ต้องค่อยๆทำ ใช้เวลาเป็นวัน กว่าจะได้แผ่นรวมเพลงโปรดสัก 1 อัลบั้ม
แต่ก็นับว่าคุ้มค่า เพราะได้เพลงที่ชอบและมีคุณภาพดีทีเดียว
การเลือกใช้แผ่น
CD
1.
แผ่น
CD-R Audio
Mitsubishi Phono-R :
สมัย 1 - 2 ปีที่แล้ว ใช้แผ่น
CD for Audio แผ่นละ 30 บาท
แต่เดี๋ยวนี้ราคาลดลงเหลือแผ่นละประมาณ
20
- 25 บาท เช่น
Mitsubishi Phono-R (Premium)
ซึ่งมีคุณภาพดีมาก
(ราคาแผ่นละ
24 - 25
บาท)
และเสียงดีทั้งทุ้ม กลางและแหลม
และเหมาะสำหรับการบันทึกเพลงประเภท Audiophile

2.
แผ่น
CD-R Audio
for Mastering : เป็นแผ่นของ
Mitsubishi - Green Tune
ความยาว 74 นาที
สำหรับใช้ทำแผ่นต้นฉบับ (Mastering) ได้พบที่ร้าน
Binaric IT Mall เมื่อวันที่ 22 ก.ค.
2553 ราคาแผ่นละ 170
บาท (www.mcmedia.co.jp)

3.
แผ่น
CD-R Audio
APro :
CD ยี่ห้อนี้ เขียนว่า
CD-R Audio 700 MB Made in Taiwan
ซึ่งมีราคาขายปลีกแผ่นละประมาณ 20 บาท และขายเป็น
Pack
ละ 50 แผ่น ราคา 700 บาท
การออกแบบแผ่นเรียบๆ ไม่สวยงามเหมือนแผ่น Phono-R
แต่สามารถเขียนข้อความลงบนด้านหน้าแผ่นได้
ผู้เขียนได้นำมาทดสอบจำนวน
10 แผ่น
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.
2553 โดยบันทึกเพลงจากแผ่น Audiophiles
มีคุณภาพเสียงดีมาก

4.
แผ่น
CD ธรรมดาแบบ
Printable แนะนำให้ใช้แผ่นยี่ห้อ
BenQ CD-R ซึ่ง Pack หนึ่ง
50 แผ่น ราคา
300 - 320 บาท มีคุณภาพดี
เสียงดี และเก็บไว้ใช้ได้นาน
(Update : ณ วันที่
25 ธ.ค.
2553 ราคาได้ลดลงเป็น
Pack ละ
220 บาท)

5.
แผ่น
TDK CD
- R Audio (80 Min) :
เป็นแผ่น
CD
ที่บันทึกเพลงที่มีคุณภาพดีอีกยี่ห้อหนึ่ง ดีทั้งเสียงทุ้ม กลาง และแหลม
และมีความชัดเจนดีใช้ได้
ผู้เขียนได้ทำการทดสอบแล้วเช่นกัน

6.
แผ่น
Pistek CD
Audio for Music - Audiophile Use Only :
แผ่น CD
ยี่ห้อนี้มีหลายเว็บไซต์ กล่าวถึง และมีผู้นำไปใช้ในการบันทึกเพลงเป็นแผ่น
Audiophile ออกมาขายโดยอ้างว่าเสียงเหมือนต้นฉบับที่สุด (ใช้ CD Recorder
บันทึกที่ 1X)
แต่จากการทดลองของผู้เขียนมีความเห็นแตกต่างออกไป สำหรับแผ่น Pistek นี้ ราคาแผ่นละ
20 บาท

7.
แผ่น
RiData Professional CD-R Digital Audio :
17/5/60
แผ่น CD
ยี่ห้อนี้มีขายในเว็บไซต์ เป็น
Pack
ละ
50
แผ่น ราคา
400
บาท หรือแผ่นละ 8
บาท ซึ่งผู้เขียนได้นำมาทดสอบโดยบันทึกเพลง
Audiophiles 17 เพลงลงในแผ่น RiData
และแผ่น Phono-R ของ
Mitsubishi แล้วนำมาเปิดฟังเทียบกัน ผลที่ได้คือแผ่น
CD ของ RiData
นี้ให้เสียงทุ้ม กลางและแหลมที่ดีมากทีเดียว เป็นที่น่าพอใจ
และมีคุณภาพเสียงที่ชัดเจนเทียบใกล้กับแผ่น Phono-R
แต่ราคาถูกกว่ามาก

ผลการทดสอบคุณภาพเสียงเพลง
จากแผ่น
CD ต่างๆ
1. เพลงต้นฉบับนำมาจากแผ่น CD
Audiophile แท้
หลายแผ่น ที่คัดเลือกเพลงหลายๆแบบ เช่น เพลงร้องโดยนักร้องหญิง นักร้องชาย เพลงบรรเลง เพลง Jazz
แล้วทำการ
Convert Audio CD เป็น Audio Files
นำไปรวบรวมไว้ใน Folder
ในคอมพิวเตอร์
2. ทำการไรท์เพลงลงแผ่น CD
ใช้โปรแกรม Nero
โดย Normalize All Audio Files และ Burn
ที่ Speed
4X เท่ากันทุกแผ่น
(โปรแกรมที่ใช้
Burn ได้ต่ำสุดที่
4X)
3. นำแผ่น CD
ที่บันทึกเพลงแล้ว ไปเปิดฟังโดยเครื่องเสียงบ้าน ประกอบด้วย CD
Player -
NAD C542, Integrated Amplifier - ONIX OA31, ลำโพง ELAC EL 120
3-Way Speaker ความถี่ 25 - 25,000 Hz
ตามรูปที่ 6
4. นำแผ่น CD
ที่บันทึกเพลงแล้ว ไปเปิดฟังโดยเครื่องเสียงที่ใช้แอมป์หลอด
Purist
Audio -
Super Tube One ในรถยนต์ ซึ่งมีระบบเสียงที่ดี
อ่านได้ที่นี่
สรุปผลการทดสอบ
:
1. แผ่น CD-R
Phono-R ของ
Mitsubishi บันทึกได้ดีประมาณ 78
นาที ผลการเล่นให้เสียงที่ชัดเจน มีเนื้อ อิ่ม เสียงทุ้มนุ่มลึกดี เสียงกลางและเสียงแหลมดี
(ไม่โฉ่งฉ่าง)ฟังแล้วรู้ว่าเสียงดีแบบ Hi-Fi / Audiophile
2. แผ่น
APro CD-R Audio ให้เสียงที่ดี
ทั้งทุ้มหนักแน่น กลาง และแหลมดี เสียงจะโปร่งกระจ่าง ชัดเจน และระดับเสียงจะดังด้วย คุณภาพโดยรวม ใกล้เคียงกับ
Phono-R
แต่ถ้าฟังหลายๆสิบครั้งเทียบกันแล้วก็จะรู้ถึงความแตกต่าง
ซึ่งวัดกันยากนั่นคือระดับของความคมชัดเจนจริงๆ หรือ Distortion
นั่นเอง
3.
แผ่น
TDK CD-R Audio
ให้เสียงที่ดีมาก
เสียงทุ้มลึก เสียงกลางและแหลมชัดเจนดีถ้าจะเทียบคุณภาพเสียงกับ
Phono-R ก็ใกล้กันมาก
4. แผ่น
Pistek
ให้เสียงที่ชัดเจน โปร่งใส กระจ่าง ออกไปทางเสียงค่อนข้างแหลม
ส่วนเสียงทุ้มนั้นน้อยกว่าแผ่น
Phono-R
5. แผ่น Mitsubishi Mastering -
Green Tune
แผ่นนี้ใช้ทำเป็นแผ่นต้นฉบับให้เสียงที่โดดเด่น มี Frequency Range ดีมาก นั่นคือ
เสียงทุ้มนุ่มลึกและกังวานและมีความอิ่ม แน่น
กว่าแผ่น Phono-R เสียงกลางและเสียงแหลมดีมาก
สดใสชัดเจนเหมาะสำหรับใช้เป็นแผ่น
Mastering และถ้ามีเครื่องเสียงบ้านที่ดีๆ
ก็อาจบันทึกเพลงประเภท Audiophile ลงแผ่น
Mastering นี้ แล้วเปิดฟัง
(แทนที่จะเอาแผ่นไป
Copy
ให้แผ่นอื่นๆ)
เสียงจะออกมาดีมาก
แต่ถ้าจะใช้ฟังในรถยนต์ คิดว่าแผ่น Phono-R
ก็ดีเพียงพอแล้ว
(หมายเหตุ
: CD Player บางเครื่อง ไม่อ่านแผ่น Green
Tune)
อนึ่ง ในปัจจุบัน เราใช้คอมพิวเตอร์ทำการ Burn
เพลงลงแผ่น CD กันมากกว่าการใช้ CD Recorder ดังนั้น ต้นฉบับเพลง
จึงเป็นไฟล์ประเภท .wav ที่เก็บไว้ใน
Folder ในคอมพิวเตอร์ และนี่คือ Master
Files
อยู่แล้ว สามารถนำมาบันทึกทีละแผ่นๆ ได้ดี
6. แผ่น CD-R Printable ของ
BenQ แผ่นนี้นับว่าดีพอสมควร (แผ่นละ
4 บาท) ในการฟังเพลงทั่วๆไป แผ่นนี้ใช้ได้
แต่อย่านำไปเทียบชั้นกับแผ่น Phono-R หรือ
APro หรือ Pistek เพราะออกแบบมาคนละเกรดกัน
และราคาก็ต่างกันมากด้วย
17/5/60
7. แผ่น CD-R
Digital Audio ของ
RiData
แผ่นนี้นับว่าดีมากให้เสียงที่ชัดเจน ทั้งเสียงทุ้ม กลางและแหลม
ใกล้เคียงกับแผ่น Phono-R ของ Mitsubishi
ถ้าจะให้คะแนน Phono-R ได้
10 แผ่น RiData ก็ควรจะได้
9 และด้วยราคาแผ่นละ 8 บาท
นับว่าคุ้มค่าในการใช้บันทึกเพลงโดยทั่วๆไปและรวมถึงเพลงประเภท
Audiophile
---------------------------------------------------------------------------
ทดลองสร้าง
CD เพลง
Audiophile จากเพลงในแผ่นที่ขายในเว็บไซต์


ได้มีบางเว็บไซต์ ขายแผ่น CD Audiophile
โดยบันทึกลงในแผ่น CD Audio
เช่น แผ่นของ Pistek
และมีคุณภาพดีใช้ได้ แต่เนื่องจากผู้นิยมเล่น
Audiophile บางคน
ฟังแล้วมีความเห็นว่า เสียงอาจจะกระจ่างไป
ความอิ่มตัวและความแน่นดีในระดับหนึ่ง ยังไม่มากนัก
ดังนั้น จึงได้ทำการทดลองโดยนำเพลงจากแผ่น
Pistek
มาแปลงไฟล์ด้วยโปรแกรม Nero
ให้เป็น Audio File .wav
โดยก่อนจะทำการ Save ลงใน
Folder ใน
Hard Disk ของคอมพิวเตอร์
ให้ทำการปรับ Volume
ให้ดังกำลังดีก่อนเพราะบางเพลงอาจจะมีระดับเสียงไม่ค่อยดัง
เมื่อเทียบกับเพลงอื่น ควรเช็คเสียงทีละเพลงๆ
และเมื่อรวบรวมได้เพลงที่ชอบ
จัดเป็น Playlist
ให้มีระยะเวลาในการเล่นประมาณ
75 - 78
นาทีแล้ว ก็ทำการไรท์
ลงแผ่น
CD แต่คราวนี้ใช้แผ่น
Mitsubishi Phono-R ทำการ
Normalize All Video Files และ
Burn ที่ ความเร็ว
4X (โปรแกรมที่ใช้
ทำได้ต่ำสุดที่
4X) ผลที่ได้
ลองนำมาเปิดฟังกับเครื่องเสียงบ้านและเครื่องเสียงในรถยนต์แล้ว
มีคุณภาพดี เสียงมีความนุ่มนวลมากขึ้น
สำหรับการฟังเพลง แต่ละคน
อาจจะชอบไม่เหมือนกัน บางคนชอบฟังแบบเสียง Flat
บางคนชอบฟังแบบทุ้มสุด แหลมสุด
และการฟังนั้น คนส่วนใหญ่
ไม่มีเครื่องเสียงราคาหลายๆแสนบาท ดังนั้น เสียงที่ดี
ควรเหมาะสำหรับคนที่ฟังโดยมีเครื่องเสียงที่ดีพอสมควร
เสียงดนตรีและเสียงร้อง
มีความเป็นธรรมชาติและใกล้จริงมากที่สุด
และข้อสำคัญต้องมีความเพี้ยน
(Distortion) น้อย
เสียงมีความนุ่มนวลไม่กระด้าง
ฟังแล้วเหมือนนั่งอยู่หน้าวงดนตรี
(Updated : 25 ก.ค.
2553)
.........................................................................................................................
โดยสรุป
การบันทึกเพลงประเภท
Audiophiles ลงแผ่น
CD-R นั้น ทำได้โดยใช้เครื่องบันทึก
CD Recorder ซึ่งปัจจุบันไม่มีขายแล้ว หรือพอมีก็เป็นรุ่นเก่าๆหาซื้อยาก
เพราะคนส่วนใหญ่หันมาใช้คอมพิวเตอร์แทน
และสามารถบันทึกเสียงได้คุณภาพดีมากด้วย
ประเด็นการเลือกใช้แผ่น
CD
ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งานและงบที่มี
ถ้าเป็นการบันทึกเพื่อฟังแบบธรรมดาๆ ใช้แผ่นราคาถูกๆก็ได้
แต่นักฟังเพลงระดับคุณภาพพวกชอบ
Audiophile
ถ้าอยากจะรวมเพลงโปรดเอาไว้ฟัง
และต้องให้ได้คุณภาพสูงก็ควรจะเลือกแผ่น
CD Audio
ที่ดีที่สุด
และถ้าเป็นไปได้ ทดสอบด้วยตนเองได้ก็จะดี
อ่านบทความ ตอนที่
1 (ปี
2550)
หมายเหตุ :
บทความนี้เสนอเรื่องทางวิชาการ ไม่ใช่การโฆษณาสินค้า |