Digital Photography  Audio & Video  Computer Accessories  Software Applications  Miscellaneous | Home
 

การ Copy เพลงลงแผ่น CD ให้ได้คุณภาพ - ตอนที่ 2
และการทดสอบคุณภาพเสียง จากแผ่น CD ต่างๆ
 

อ่านบทความ ตอนที่ 1 (ปี 2550)
 

 

รูปที่ 1

รูปที่ 2

รูปที่ 3

รูปที่ 4

รูปที่ 5

รูปที่ 6  ชุดเครื่องเสียง Hi-Fi Stereo ที่ใช้ทดลองฟังเสียง
 
แผ่น CD Audiophile ที่ใช้ในการทดสอบ

ใช้แผ่น CD Audiophile 3 แผ่น คือ  Best Audiophile Voices II (XRCD), Audiophile Jazz และ Best Audiophile Male Voices
                    
........................................................................................................................
าร
Copy เพลงจากแผ่น CD โดยใช้ Nero StartSmart - Nero Express
(Update เพิ่มขึ้น ณ วันที่ 20 .. 2557)

โปรแกรม Nero StartSmart , Nero Express ได้มีการปรับปรุงไปเรื่อยๆ สำหรับผู้ที่ใช้ Nero Multimedia Suite 10 ก็สามารถทำการ Copy CD เพลงได้ ตามวิธีในรูปข้างล่างนี้


 เปิดโปรแกรม Nero StartSmart ขึ้นมา
 


คลิกที่ Nero Express (21)
 

เลือก Music (22) แล้วคลิกที่ Audio CD (23)
 

ใส่แผ่น CD ลงในถาด CD คลิก Add (24) แล้ว Browse หา CD จากนั้นโปรแกรมจะทำการ
Analyze เพลง CD แต่ละ Track จนหมดแผ่น
 


เมื่อทำการ Analyze หรือแปลงไฟลืเพลง CD ครบแล้ว จะปรากฎรายชื่อเพลง Artist และ Track Length (25) ซึ่งเราสามารถสลับชื่อเพลงได้โดยใช้ Mouse คลิกลากชื่อเพลงไปยังลำดับที่ต้องการ และสามารถเพิ่มเพลงได้โดยใส่ CD แผ่นใหม่เข้าไป แล้วคลิก Add แต่ต้องระวังไม่ให้เพลงมีความยาวรวมเกิน 80 นาที (CD บางแผ่นบันทึกได้ 80 นาที)
 


คลิกที่ลูกศร (26) เพื่อขยายส่วนทางด้านซ้ายออกมา จะปรากฏรายการ Writing Speed (27)
 


เลือก Writing Speed 4X (28) จะให้เสียงที่ดีที่สุด จากนั้น คลิก Burn (29) โปรแกรมก็จะทำการ Burn เพลงลงในแผ่น CD จนเสร็จ

.......................................................................................................................................
 

  การ Copy เพลงจากแผ่น CD หลายๆแผ่น โดยเลือกเพลงที่ชอบ
บางแผ่นอาจจะได้เพลงเดียว บางแผ่นได้หลายเพลง นำมารวมกันนั้น เพื่อที่จะรวบรวมมาบันทึกลงแผ่น CD-R เอาไว้ฟังที่บ้าน หรือฟังในรถยนต์ นั้น เราควรจะค่อยๆทำโดยเลือกเพลงที่ชอบจริงๆ นำมาแปลงให้เป็น Audio Files เสียก่อน แล้วเก็บไว้ใน Hard Disk หรือใน Folder ให้ได้มากพอ แล้วเริ่มมาเปิดฟังทีละเพลงๆ เพื่อเช็คระดับความดังเพลงจากบางแผ่น เสียงจะค่อยเมื่อเทียบกับเพลงจากอีกแผ่นหนึ่ง ดังนั้น ควรจะทำการปรับระดับความดัง (Volume) แล้วทำการแปลงไฟล์ใหม่  จากนั้น ทำรายการเพลงทั้งหมด แล้วมาเลือกอีกครั้งว่าในแผ่นรวมเพลงโปรดของเรา จะให้เพลงใดขึ้นก่อน เรียงลำดับเพลงให้ไปด้วยกันได้ หรือถ้ามีเพลงร้องมากๆ ก็อาจสลับด้วยเพลงบรรเลงบ้าง เวลาฟังจะได้เป็นการผ่อนคลายและไม่เบื่อง่าย

ขั้นตอนต่างๆ สรุปได้ดังนี้
:
 เปิดโปรแกรม Nero Start Smart ตามรูปที่ 1 เลือก Audio
(1) และเลือก Convert Audio CDs to Audio Files (2)
  ใส่แผ่น CD เพลงลงเข้าไป เมื่อเครื่องโหลดแผ่นเสร็จแล้ว จะได้รายการเพลงปรากฎขึ้น ตามรูปที่ 2 ข้อ
(3) ซึ่งอาจจะไม่มีชื่อเพลงให้เห็น ดังนั้น เราจะต้องลองฟังเพลงก่อน เช่นเลือกที่ (3) แล้วกดเลือกฟังเพลง (4สามารถปรับความดังได้ที่ Volume (5)
  เลือกนามสกุลของไฟล์ที่ต้องการ เช่น .wav
(6) แล้วเลือกว่าจะให้ไฟล์เพลงที่แปลงแล้ว ไปเก็บไว้ที่ใด (7) ในขั้นตอนนี้ สามารถเลือก ความเร็วในการอ่านได้ (8) จากนั้น คลิก Go (9)  โปรแกรมก็จะเริ่มทำการแปลงไฟล์ ไปเก็บไว้ รูปที่ 3 แสดงการทำงานของโปรแกรมขณะแปลงไฟล์

หมายเหตุ
: (13 .. 2553)
ากรูปที่ 3 ะเห็นปุ่ม Settings
(10A) ซึ่งปกติ จะตั้งค่า Defaultว้ที่ 44100 Hz ละ 16 Bits ากการทดลองตั้งค่าใหม่ เป็น 48000 Hz ละ 24 Bits ล้วบันทึกเพลงลงแผ่น CD บว่าให้เสียงที่ดีขึ้นกว่าเดิม

ขั้นตอนการเลือกเพลงมารวมกันเพื่อ
Burn ลงแผ่น CD
  กลับไปรูปที่ 1 เลือก Make Audio CD
(2A)
  จากรูปที่ 4 คลิก Add
(11) แล้วเลือกไฟล์เพลงที่ได้เก็บรวบรวมไว้ใน Folder เข้ามา  (12) เพลงที่เลือกมาเป็นเพลงแรก จะได้หมายเลข 1 คือเริ่มเล่นก่อน และเราสามารถเลือกเพลงลำดับที่ 2, 3, 4, ... ได้ตามต้องการ  จากนั้น ปรับแก้ชื่อเพลงให้ถูกต้องและควรปรับระดับเสียงให้ใกล้เคียงกันโดย เลือก Normalize all audio files (13) จากนั้นคลิก Next (14)

  ก่อนที่จะ Burn ลงแผ่น CD ตามรูปที่ 5 เราสามารถตั้งชื่อ Title
(15) แล้วคลิกที่(16) เพื่อตั้ง Writing Speed (17) ซึ่งควรจะเลือกความเร็วในการเขียนแผ่นที่ต่ำที่สุดซึ่งจะทำให้ได้เสียงดี (แต่การ Write จะใช้เวลานาน และถ้าต้องการหลาย Copy ก็ระบุจำนวนจำนวนที่ต้องการได้  จากนั้น ก็คลิก Burn (18) เป็นอันสิ้นสุดกระบวนการ

ผลการใช้งาน

ผู้เขียนได้ทำการ Copy เพลงจากแผ่น CD เพลงเก่าๆ จำนวนมาก บางแผ่นมีอายุกว่า 30 ปี และบางแผ่นก็ใหม่ นำมารวมกันได้อย่างดี แต่ต้องค่อยๆทำ ใช้เวลาเป็นวัน กว่าจะได้แผ่นรวมเพลงโปรดสัก 1 อัลบั้ม แต่ก็นับว่าคุ้มค่า เพราะได้เพลงที่ชอบและมีคุณภาพดีทีเดียว 

การเลือกใช้แผ่น
CD

1. ผ่น CD-R Audio Mitsubishi Phono-R :
สมัย 1 - 2 ปีที่แล้ว ใช้แผ่น CD for Audio แผ่นละ 30 บาท แต่เดี๋ยวนี้ราคาลดลงเหลือแผ่นละประมาณ 20 - 25 าท เช่น Mitsubishi Phono-R (Premium) ซึ่งมีคุณภาพดีมาก (ราคาแผ่นละ 24 - 25 บาท) และเสียงดีทั้งทุ้ม กลางและแหลม และเหมาะสำหรับการบันทึกเพลงประเภท Audiophile

2. ผ่น CD-R Audio for Mastering :   เป็นแผ่นของ Mitsubishi - Green Tune
วามยาว 74 าที สำหรับใช้ทำแผ่นต้นฉบับ (Mastering) ด้พบที่ร้าน Binaric IT Mallมื่อวันที่ 22 .. 2553 าคาแผ่นละ 170 าท (www.mcmedia.co.jp)
 
     

3. ผ่น CD-R Audio APro :  
CD ยี่ห้อนี้ เขียนว่า CD-R Audio 700 MB Made in Taiwan  ซึ่งมีราคาขายปลีกแผ่นละประมาณ 20 บาท และขายเป็น Pack ละ 50 แผ่น ราคา 700 บาท การออกแบบแผ่นเรียบๆ ไม่สวยงามเหมือนแผ่น Phono-R แต่สามารถเขียนข้อความลงบนด้านหน้าแผ่นได้ ผู้เขียนได้นำมาทดสอบจำนวน 10 แผ่น เมื่อวันที่ 25 .. 2553 โดยบันทึกเพลงจากแผ่น Audiophiles มีคุณภาพเสียงดีมาก
              
4
. ผ่น CD รรมดาแบบ Printable นะนำให้ใช้แผ่นยี่ห้อ BenQ CD-R ซึ่ง Pack นึ่ง 50 ผ่น ราคา 300 - 320 าท มีคุณภาพดี เสียงดี และเก็บไว้ใช้ได้นาน (Update : วันที่ 25 .. 2553 าคาได้ลดลงเป็น Pack 220 าท)

                                       
5.
แผ่น TDK CD - R  Audio (80 Min) :  เป็นแผ่น CD ที่บันทึกเพลงที่มีคุณภาพดีอีกยี่ห้อหนึ่ง ดีทั้งเสียงทุ้ม กลาง และแหลม และมีความชัดเจนดีใช้ได้  ผู้เขียนด้ทำการทดสอบแล้วเช่นกัน
             

6.
แผ่น Pistek CD Audio for Music - Audiophile Use Only :   ผ่น CD ยี่ห้อนี้มีหลายเว็บไซต์ กล่าวถึง และมีผู้นำไปใช้ในการบันทึกเพลงเป็นแผ่น Audiophile อกมาขายโดยอ้างว่าเสียงเหมือนต้นฉบับที่สุด (ใช้ CD Recorder บันทึกที่ 1X) แต่จากการทดลองของผู้เขียนมีความเห็นแตกต่างออกไป สำหรับแผ่น Pistek นี้ ราคาแผ่นละ 20 าท
                
7. แผ่น RiData Professional CD-R Digital Audio :   17/5/60
ผ่น CD ยี่ห้อนี้มีขายในเว็บไซต์ เป็น Pack ละ 50 แผ่น ราคา 400 บาท หรือแผ่นละ 8 บาท ซึ่งผู้เขียนได้นำมาทดสอบโดยบันทึกเพลง Audiophiles 17 เพลงลงในแผ่น RiData และแผ่น Phono-R ของ Mitsubishi แล้วนำมาเปิดฟังเทียบกัน ผลที่ได้คือแผ่น CD ของ RiData นี้ให้เสียงทุ้ม กลางและแหลมที่ดีมากทีเดียว เป็นที่น่าพอใจ และมีคุณภาพเสียงที่ชัดเจนเทียบใกล้กับแผ่น Phono-R แต่ราคาถูกกว่ามาก
       

ผลการทดสอบคุณภาพเสียงเพลง จากแผ่น
CD ต่างๆ

1. เพลงต้นฉบับนำมาจากแผ่น CD Audiophile แท้ หลายแผ่น ที่คัดเลือกเพลงหลายๆแบบ เช่น เพลงร้องโดยนักร้องหญิง นักร้องชาย เพลงบรรเลง เพลง Jazz แล้วทำการ Convert Audio CD เป็น Audio Files นำไปรวบรวมไว้ใน Folder ในคอมพิวเตอร์
2. ทำการไรท์เพลงลงแผ่น CD ใช้โปรแกรม Nero โดย Normalize All Audio Files และ Burn ที่ Speed 4X เท่ากันทุกแผ่น (โปรแกรมที่ใช้ Burn ได้ต่ำสุดที่ 4X)
3. นำแผ่น CD ที่บันทึกเพลงแล้ว ไปเปิดฟังโดยเครื่องเสียงบ้าน  ประกอบด้วย CD Player - NAD C542, Integrated Amplifier - ONIX OA31,  ลำโพง ELAC EL 120  3-Way Speaker ความถี่ 25 - 25,000 Hz  ตามรูปที่ 6
4. นำแผ่น CD ที่บันทึกเพลงแล้ว ไปเปิดฟังโดยเครื่องเสียงที่ใช้แอมป์หลอด Purist Audio - Super Tube One ในรถยนต์ ซึ่งมีระบบเสียงที่ดี  อ่านได้ที่นี่

สรุปผลการทดสอบ :

1. แผ่น CD-R Phono-R ของ Mitsubishi บันทึกได้ดีประมาณ 78 นาที ผลการเล่นให้เสียงที่ชัดเจน มีเนื้อ อิ่ม เสียงทุ้มนุ่มลึกดี เสียงกลางและเสียงแหลมดี (ม่โฉ่งฉ่าง)ฟังแล้วรู้ว่าเสียงดีแบบ Hi-Fi / Audiophile

2. แผ่น APro  CD-R Audio ให้เสียงที่ดี ทั้งทุ้มหนักแน่น กลาง และแหลมดี  เสียงจะโปร่งกระจ่าง ชัดเจน และระดับเสียงจะดังด้วย คุณภาพโดยรวม ใกล้เคียงกับ Phono-R แต่ถ้าฟังหลายๆสิบครั้งเทียบกันแล้วก็จะรู้ถึงความแตกต่าง ซึ่งวัดกันยากนั่นคือระดับของความคมชัดเจนจริงๆ หรือ Distortion นั่นเอง

3. ผ่น TDK CD-R Audio ห้เสียงที่ดีมาก เสียงทุ้มลึก เสียงกลางและแหลมชัดเจนดีถ้าจะเทียบคุณภาพเสียงกับ Phono-R ็ใกล้กันมาก

4
. แผ่น Pistek ให้เสียงที่ชัดเจน โปร่งใส กระจ่าง ออกไปทางเสียงค่อนข้างแหลม ส่วนเสียงทุ้มนั้นน้อยกว่าแผ่น Phono-R

5. แผ่น Mitsubishi Mastering - Green Tune  แผ่นนี้ใช้ทำเป็นแผ่นต้นฉบับให้เสียงที่โดดเด่น มี Frequency Range ดีมาก นั่นคือ เสียงทุ้มนุ่มลึกและกังวานและมีความอิ่ม แน่น กว่าแผ่น Phono-R  เสียงกลางและเสียงแหลมดีมาก สดใสชัดเจนเหมาะสำหรับใช้เป็นแผ่น Mastering  และถ้ามีเครื่องเสียงบ้านที่ดีๆ ก็อาจบันทึกเพลงประเภท Audiophile งแผ่น Mastering นี้ แล้วเปิดฟัง (แทนที่จะเอาแผ่นไป Copy ห้แผ่นอื่นๆ) เสียงจะออกมาดีมาก แต่ถ้าจะใช้ฟังในรถยนต์ คิดว่าแผ่น Phono-R  ก็ดีเพียงพอแล้ว  (หมายเหตุ : CD Player บางเครื่อง ไม่อ่านแผ่น Green Tune)

อนึ่ง ในปัจจุบัน เราใช้คอมพิวเตอร์ทำการ
Burn เพลงลงแผ่น CD กันมากกว่าการใช้ CD Recorder ดังนั้น ต้นฉบับเพลง จึงเป็นไฟล์ประเภท .wav ที่เก็บไว้ใน Folder ในคอมพิวเตอร์ และนี่คือ Master Files อยู่แล้ว สามารถนำมาบันทึกทีละแผ่นๆ ได้ดี

6
. แผ่น CD-R Printable ของ BenQ  แผ่นนี้นับว่าดีพอสมควร (แผ่นละ 4 บาท) ในการฟังเพลงทั่วๆไป แผ่นนี้ใช้ได้  แต่อย่านำไปเทียบชั้นกับแผ่น Phono-R หรือ APro หรือ Pistek เพราะออกแบบมาคนละเกรดกัน และราคาก็ต่างกันมากด้วย

17/5/60
7. แผ่น CD-R Digital Audio ของ RiData  แผ่นนี้นับว่าดีมากให้เสียงที่ชัดเจน ทั้งเสียงทุ้ม กลางและแหลม ใกล้เคียงกับแผ่น Phono-R ของ Mitsubishi ถ้าจะให้คะแนน Phono-R ได้ 10 แผ่น RiData ก็ควรจะได้ 9 และด้วยราคาแผ่นละ 8 บาท นับว่าคุ้มค่าในการใช้บันทึกเพลงโดยทั่วๆไปและรวมถึงเพลงประเภท Audiophile
---------------------------------------------------------------------------

ทดลองสร้าง CD เพลง Audiophile จากเพลงในแผ่นที่ขายในเว็บไซต์


ได้มีบางเว็บไซต์ ขายแผ่น CD Audiophile โดยบันทึกลงในแผ่น CD Audio เช่น แผ่นของ Pistek และมีคุณภาพดีใช้ได้ แต่เนื่องจากผู้นิยมเล่น Audiophile บางคน ฟังแล้วมีความเห็นว่า เสียงอาจจะกระจ่างไป ความอิ่มตัวและความแน่นดีในระดับหนึ่ง ยังไม่มากนัก ดังนั้น จึงได้ทำการทดลองโดยนำเพลงจากแผ่น Pistek มาแปลงไฟล์ด้วยโปรแกรม Nero ให้เป็น Audio File .wav โดยก่อนจะทำการ Save ลงใน Folder ใน Hard Disk ของคอมพิวเตอร์ ให้ทำการปรับ Volume ให้ดังกำลังดีก่อนเพราะบางเพลงอาจจะมีระดับเสียงไม่ค่อยดัง เมื่อเทียบกับเพลงอื่น ควรเช็คเสียงทีละเพลงๆ  และเมื่อรวบรวมได้เพลงที่ชอบ จัดเป็น Playlist ให้มีระยะเวลาในการเล่นประมาณ 75 - 78 นาทีแล้ว ก็ทำการไรท์ ลงแผ่น CD แต่คราวนี้ใช้แผ่น Mitsubishi Phono-R ทำการ Normalize All Video Files และ Burn ที่ ควมเร็ว 4X  (โปรแกรมที่ใช้ ทำได้ต่ำสุดที่ 4X) ผลที่ได้ ลองนำมาเปิดฟังกับเครื่องเสียงบ้านและเครื่องเสียงในรถยนต์แล้ว มีคุณภาพดี เสียงมีความนุ่มนวลมากขึ้น

สำหรับการฟังเพลง แต่ละคน อาจจะชอบไม่เหมือนกัน บางคนชอบฟังแบบเสียง Flat บางคนชอบฟังแบบทุ้มสุด แหลมสุด และการฟังนั้น คนส่วนใหญ่ ไม่มีเครื่องเสียงราคาหลายๆแสนบาท ดังนั้น เสียงที่ดี ควรเหมาะสำหรับคนที่ฟังโดยมีเครื่อง
เสียงที่ดีพอสมควร เสียงดนตรีและเสียงร้อง มีความเป็นธรรมชาติและใกล้จริงมากที่สุด และข้อสำคัญต้องมีความเพี้ยน (Distortion) น้อย เสียงมีความนุ่มนวลไม่กระด้าง ฟังแล้วเหมือนนั่งอยู่หน้าวงดนตรี
(Updated : 25 .. 2553)
.........................................................................................................................


โดยสรุป การบันทึกเพลงประเภท Audiophiles งแผ่น CD-R นั้น ทำได้โดยใช้เครื่องบันทึก CD Recorder ซึ่งปัจจุบันไม่มีขายแล้ว หรือพอมีก็เป็นรุ่นเก่าๆหาซื้อยาก  เพราะคนส่วนใหญ่หันมาใช้คอมพิวเตอร์แทน และสามารถบันทึกเสียงได้คุณภาพดีมากด้วย ประเด็นการเลือกใช้แผ่น CD ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งานและงบที่มี  ถ้าเป็นการบันทึกเพื่อฟังแบบธรรมดาๆ ใช้แผ่นราคาถูกๆก็ได้ แต่นักฟังเพลงระดับคุณภาพพวกชอบ Audiophile ถ้าอยากจะรวมเพลงโปรดเอาไว้ฟัง และต้องให้ได้คุณภาพสูงก็ควรจะเลือกแผ่น CD Audio ที่ดีที่สุด และถ้าเป็นไปได้ ทดสอบด้วยตนเองได้ก็จะดี


อ่านบทความ ตอนที่ 1 (ปี 2550)


หมายเหตุ : บทความนี้เสนอเรื่องทางวิชาการ ไม่ใช่การโฆษณาสินค้า

 
จากวันที่ 7 มิ.. 2553
ปรับปรุง : 13 .. 2553,25 .. 2553, 20 .. 2557
และล่าสุด 17 .. 2560