![]() |
Digital Photography Audio & Video Computer Accessories Software Applications | Miscellaneous | Home |
.... |
ค่าใช้จ่ายของรถยนต์ไฟฟ้า
เทียบกับรถยนต์
Hybrid |
ผู้เขียนมีความสนใจในรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) หรือที่เรียกว่า Battery Electric Vehicle (BEV) ด้วยเห็นว่าการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนรถยนต์มีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้เครื่องยนต์ ICE (Internal Combustion Engine) มาก รถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดมลภาวะ ลดโลกร้อน เสียงเงียบกว่า ใช้ชิ้นส่วนน้อยกว่า ค่าบำรุงรักษาก็น้อย อัตราการเร่งก็ดีมาก แต่มีข้อเสียอยู่หลายประการเหมือนกัน เช่น ราคารถยนต์ไฟฟ้าจะแพงกว่ารถยนต์ ICE มาก แบตเตอรี่มีราคาแพง และระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จไฟเต็มที่ยังเป็นข้อกังวลของผู้ใช้ แม้ว่าจะวิ่งได้ถึง 400 - 500 กิโลเมตร ก็ตาม ยังต้องพึ่งสถานีชาร์จไฟที่ยังหายากหรือมีไม่เพียงพอ และการชาร์จไฟแต่ละครั้งใช้เวลานาน แม้ว่าปัญหาเหล่านี้กำลังมีการแก้ไข มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่ทำงานในเมือง คือเป็นรถขนาดเล็กขับไปทำงานแล้วกลับ วันละประมาณ 40 - 50 กิโลเมตร อยู่ในประเภท City Car ซึ่งสามารถทำการชาร์จไฟฟ้าที่บ้านได้ (ถ้าเป็นรถยนต์ขนาดเล็กมักจะมี Charger ติดตั้งมาให้ในตัวรถ แต่ถ้าแบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ ส่วนมากจะต้องติดตั้ง Home EV Charging Station เพิ่ม)ไม่ต้องไปพึ่งสถานีชาร์จที่อื่น อาจเหมาะที่จะเป็นรถคันที่ 2 และไม่ใช้เดินทางไกลนัก จนกว่าจะแน่ใจว่ามีการติดตั้งสถานีชาร์จไฟในต่างจังหวัดมากเพียงพอ ดังนั้น การนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาใช้จึงสามารถทำได้ทันที หากรถมีราคาไม่แพงมากนัก ในปัจจุบันประเทศที่มีอากาศหนาว มีควันและหมอกมาก (Smoke & Fog) เช่นที่ Los Angeles มีความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนให้คนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้มากที่สุด บางเมืองในประเทศจีนก็เช่นกัน ส่วนในยุโรป ก็มีที่อังกฤษ และในอนาคต บางประเทศจะให้เลิกการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ประเภท ICE (แต่เขาอาจย้ายเอาเครื่องจักร์ที่ใช้ผลิตรถยนต์ ICE และ Hybrid ไปไว้ยังประเทศอื่นที่ยังคงใช้รถประเภทดังกล่าวอยู่) ปัญหาการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยยังมีอีก เช่น ค่าไฟฟ้าที่มีราคาค่อนข้างแพง และอาจจะแพงขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดของแหล่งพลังงาน การไม่ยอมรับโรงไฟฟ้าถ่านหินนำเข้าของประชาชนบางส่วน ทำให้ต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย ซึ่งมีจำนวนจำกัด ต้องพึ่งพาไฟฟ้าพลังน้ำจากลาว และหากต้องนำเข้า Liquefied Natural Gas มาผลิตไฟฟ้า ค่าไฟจะยิ่งแพงมากขึ้นอีก การนำไฟฟ้ามาชาร์จแบตเตอรี่ของรถยนต์ จะต้องมี Supply ให้ได้ 10 - 30 A ซึ่งอาจจะลำบากหน่อย อาจต้องเดินสายไฟใหม่หรือเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้า และการไฟฟ้าจะขายไฟให้แบบ Off Peak ในอัตราเท่าไรสำหรับส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ชาร์จไฟตามบ้าน อาคาร ที่แรงดันไฟฟ้า 220 โวลท์ และข้อกำหนดเรื่องเวลา ซึ่งปกติ Off Peak จะใช้ได้ในเวลา 21.30 หรือ 22.00 น. จนถึง 9.00 น.หมายความว่าผู้ที่จะชาร์จไฟเข้ารถไฟฟ้า อาจจะต้องรอเวลาในช่วง Off Peak จึงจะได้ไฟฟ้าที่มีราคาถูกลง และต้องมีการแยกมิเตอร์ติดภายนอกบ้านด้วยหรือเปลี่ยนมิเตอร์เดิมได้
สำหรับอัตราค่าไฟฟ้าของ กฟน.และ กฟภ.
ในปัจจุบัน ถ้าขอใช้ไฟฟ้าแบบ Off Peak
ค่าไฟฟ้าจะถูกลงมาก คือ 1.2246
บาท/kWh ตามตารางข้างล่างนี้
ตารางที่
1
แสดงการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายรถยนต์ประภท
Hybrid ขนาดความจุเครื่องยนต์ประมาณ 2000
cc. กับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ซึ่ง
Assume ราคารถยนต์ไฟฟ้าแพงกว่ารถยนต์ Hybrid
เพียง 35 % (ในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้า
ยังมีราคาแพงมาก) ส่วนค่าไฟฟ้าใช้ทั้งแบบปกติและแบบ
Off Peak โดยเทียบระยะเวลาการใช้งาน 12
ปี ผลคร่าวๆปรากฎว่ารถยนต์ไฟฟ้าน่าจะสู้กับรถยนต์
Hybrid ได้ ถ้าใช้ค่าไฟฟ้าแบบ Off Peak
แต่ในความเป็นจริง คงต้องมีการไปชาร์จไฟฟ้าตาม
Charging Station ต่างๆ ด้วย
ซึ่งอัตราค่าไฟฟ้าจะสูงกว่าอัตรา Off Peak
และยังมีค่าลงทุนของผู้ให้บริการอีกด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตารางที่
1
เปรียบเทียบค่าใช้จ่าย รถยนต์
Hybrid
เทียบกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
หมายเหตุ : ** อัตราการใช้ไฟฟ้า ต่อกิโลเมตร คำนวณ มาจากอะไร? 1. รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) เช่น Tesla Model S มีการใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ 1 kWh วิ่งได้ประมาณ 5 - 5.6 กิโลเมตร 2. Tesla Model P85 ชาร์จไฟเต็ม วิ่งโดยไม่เปิดแอร์ ได้ 595 กม. แต่ถ้าเปิดแอร์ตลอด วิ่งได้ 494 กม. หรือระยะทางลดลงไป 17% เมื่อวิ่งทางไกล ด้วยความเร็วประมาณ 90 กม./ชม. แต่ถ้าวิ่งในเมือง รถติด ใช้แอร์มาก ระยะทางที่ลดลง อาจจะ 20 - 40 % ก็ได้ ดังนั้น Assume ใช้ระยะทางลดลง 20% ในการตำนวณ 3. Tesla Model P85 ไม่เปิดแอร์ 1 kWh วิ่งได้ประมาณ 5 กม. 4. การศึกษาข้อมูลเครื่องชาร์จพบว่า มีความสูญเสีย Loss ในตัว Charger ในตัวแบตเตอรี่ ระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ และในสายไฟ รวมกันประมาณ 17 - 20% ในที่นี้ใช้ 18 % ซึ่งหมายความว่าค่าไฟฟ้าที่จ่าย เราต้องรวมจ่ายค่า Loss 18 % (Loss รวมดังกล่าว 18 % ถือว่าสูง จะต้องศึกษาหาข้อมูลต่อไป) ดังนั้น ค่าไฟฟ้าจึงคิดจากอัตราการใช้ไฟฟ้าของรถยนต์ BEV วิ่งได้ 5 x 0.8 = 4 กม.ใช้ไฟจากแบตเตอรี่ 1 kWh หรือใช้ไฟจากสถานีชาร์จ 1.20 kWh คิดเป็นเงินค่าไฟ (ถ้าใช้อัตราปกติ) = 1.18 x 4.50 = 5.31 บาท หรือ 1.3275 บาท/กม. และถ้าใช้อัตรา Off Peak = 0.3613 บาท/กม. ผิดถูกประการใด ท่านผู้รู้แสดงความคิดเห็นได้ครับ ---------------------------------------------------------------------------------
|
วันที่ 30 เม.ย.
2560
ปรับปรุงล่าสุด : 4 พ.ค.
2560