รูปที่ 2  ภาพแผงใฟ LED Ceiling Lamp

รูปที่ 3  แสงสว่างจาก LED จำนวน 36 อัน

รูปที่ 4  LED Ceiling Lamp 18 วัตต์ White และ 15 วัตต์ Warm White ให้บรรยากาศที่แตกต่างกัน

รูปที่ 5  LED Downlight 5 W ติดตั้งที่บริเวณบาร์ และไฟ LED Strip 12 V 3 วัตต์

รูปที่ 6  LED Ceiling Lamp 18 วัตต์ ติดในครัว แทนหลอดฟลูออเรสเซนต์กลม 32 วัตต์

รูปที่ 7  LED Bulb แบบ Corn Bulb 8 วัตต์  LED Filament Bulb 2 วัตต์ และ LED Lamp ขนาดเล็ก 1 วัตต์

เปรียบเทียบการใช้ไฟฟ้าของหลอดไฟแบบต่างๆ

LED   Fluorescent   Incandescent 3 Watt = 7 Watt = 35 Watt 5 Watt = 11 Watt = 50 Watt 7 Watt = 15 Watt = 70 watt 9 Watt = 19 Watt = 90 Watt 12 Watt = 25 Watt = 120 Watt 15 Watt = 31 Watt = 150 Watt 18 Watt = 36 Watt = 180 Watt

การติดตั้งไฟ LED แทนหลอดไฟฟลูออเรสเซ็นต์แบบประหยัดพลังงานนั้น เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและในปัจจุบันได้มีผู้ที่สนใจใช้ไฟ LED มากขึ้น สำหรับกรณีของผู้เขียน มีวัตถุประสงค์คือ : (1) ประหยัดพลังงาน  (2) เพื่อความสะดวก  (3) เพื่อความปลอดภัย  (4) เพื่อศึกษาทดลอง  และ (5) สำหรับ Ceiling Lamp ที่อยู่สูงๆ เปลี่ยนหลอดลำบาก   สรุปตัวอย่างการติดตั้งไฟ LED No. Location Wattage Type Purpose 1 ไฟหน้าตัวบ้าน LED Circle 15W (แทนด้วยไฟ LED Strip) Dimmable   (1) (2) 2 ไฟติดรั้วบ้าน LED Strip ยาว 5.65 m Dimmable (1) (2) 3 ไฟโรงรถ LED 30W LED 20 W และ LED Strip 2 แห่ง และ Dimmable LED Spotlight 3 ดวง Motion Sensor Floodlight Floodlight (1) (2) (3) 4 ไฟบาร์ชั้นล่าง LED 7W LED Downlight 2 x 4 W และ LED Strip 3 W Motion Sensor   (1),(2) 5 ไฟเพดานครัว LED 2x7W LED Circle 18W Radar Motion Sensor Normal White (2) (1) 6 ไฟบันได LED Bar 3 อัน (แทนด้วยไฟ LED Strip) Motion Sensor   (2) (3) 7 ไฟห้องทำงานชั้นบน LED 6x4 W Dimmable (1) 8 ไฟ Mini Bar ชั้นบน LED 4 W Motion Sensor Motion Sensor (1),(2) 9 ไฟห้องน้ำชั้นบน LED 6 W LED Bar 8W Motion Sensor Switch Motion Sensor Switch (1), (2) 10 ไฟห้องน้ำชั้นล่าง LED Bar 5 W Normal White (2) 11 ไฟห้องนอน 1 LED Corn 2x12 W Normal White (1) 12 ไฟห้องนอน 2 LED Circle 20 W Normal White (1) 13 ไฟโต๊ะสนาม LED  Downlight 3 W Warm White (1) 14 ไฟส่องรูปภาพฝาผนัง Dimmable Candle LED 5 W Warm White (1)           -------------------------------------------------------------- 5. LED Dimmable Spotlight ไฟเพดานประเภท Spotlight เดิมนั้นใช้หลอด Tungsten Filament ที่ใช้กันมากมีขนาด 60 วัตต์ หรือ 100 วัตต์ ในปัจจุบัน มีหลอด LED Spotlight แบบธรรมดาและแบบที่หรี่ไฟได้ออกมาขาย มีขนาด รูปที่ 21  หลอด Spotlight แบบเก่า Tungsten Filament 60  วัตต์ เทียบกับแบบใหม่ Dimmable LED 10 วัตต์ รูปที่ 22  ตัวอย่างการใช้ Dimmable LED Spotlight 3 x 10 วัตต์ คำนวณความประหยัดของหลอดไฟ Spotlight โรงรถ (รูปที่21) เดิมใช้หลอดไฟ Spotlight ขนาด 60 วัตต์ จำนวน 3 หลอด = 180 วัตต์ แต่เปิดเป็นครั้งคราวเพราะกินไฟมาก ดังนั้นไฟโรงรถจึงใช้หลอด Fluorescent ขนาด 34 วัตต์ เปิดวันละ 12 ชั่วโมง เมื่อเปลี่ยนมาใช้หลอด LED Spotlight  3 x 10 วัตต์ แล้วหรี่ไฟลงมา จะกินไฟประมาณ 15 วัตต์ ซึ่งจะทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ปีละ (34 - 15) x 12 x 365 x 4.5 / 1000 = 375 บาท ซึ่งจะคุ้มทุนในเวลา 1 - 1 ปีครึ่ง   6. LED Strip Lighting ไฟ LED Strip เป็นที่นิยมใช้กันมากสำหรับการตกแต่งสร้างบรรยากาศทั้งภายในและภายนอก ใช้ติดตามตู้โชว์สินค้า ตู้ Jewelry ไฟหลืบเพดาน ขั้นบันได ไฟตกแต่งสวน ใช้ตาม Pub, Coffee Shop บาร์ รถยนต์ เป็นต้น และสามารถนำมาใช้เป็นไฟแสงสว่างในบ้านได้ดี ไฟ LED Strip ส่วนใหญ่จะใช้ไฟ 12 โวลต์ ดังนั้นจึงต้องใช้ Adapter 220/12 V และสามารถต่อกับ Dimmer ขนาดเล็กมาก พร้อมกับใช้ Remote Control ควบคุมการปิด เปิด ระดับความสว่าง และทำไฟกระพริบ หรือแม้แต่เปลี่ยนสี ได้ด้วย สำหรับไฟ LED Strip 220 V ก็มีขาย แต่ก็มี Adapter ขนาดเล็ก พ่วงมาให้ด้วย ไฟ LED Strip มีทั้งแบบที่ติดตั้งภายใน และติดตั้งภายนอก ซึ่งกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้นจึงต้องเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน  รายละเอียด ไฟ LED เส้นและอุปกรณ์หรี่ไฟ คลิกอ่านได้ที่ Link นี้ รูปที่ 23  ตัวอย่างการใช้ไฟ LED Strip ให้แสงสว่างภายนอกตัวบ้าน   -------------------------------------------- 4.2 LED Corn Bulb หลอดไฟ LED Corn Bulb เป็นหลอดที่จะมาแทนที่หลอดประหยัดพลังงานเพราะประหยัดไฟฟ้าได้มากขึ้นโดยใช้ไฟฟ้าเพียงประมาณครึ่งหนึ่งของหลอดประหยัดพลังงาน เมื่อให้ความสว่างเท่ากัน รูปที่ 20  LED Corn Bulb รูปที่ 21  LED Corn Bulb ขนาดเล็ก 220 V 5 W.   หลอดไฟ LED Corn Bulb แบบ Dimmable เป็นหลอดไฟที่สามารถปรับระดับความสว่างได้ 3 ระดับ คือ 100%, 50% และ 25% เรียกว่า Segmented Dimming โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ Dimmer เพียงแต่ใช้สวิตช์ที่มีอยู่ เปิดไฟครั้งแรกจะได้ความสว่าง 100% เมื่อปิดแล้วเปิดใหม่ จะได้ความสว่าง 50% และเมื่อปิดแล้วเปิดใหม่ จะได้ความสว่าง 25% สลับกันไปเรื่อยๆ อ่านบทความและการทดสอบหลอดไฟ LED แบบ Step Dimming ได้ที่นี่   รูปที่ 21  Dimmable LED Corn Bulb รวมบทความเกี่ยวกับไฟ LED จาก ก.ค. 2558 - ส.ค. 2560 1.  หลอดไฟ Motion Sensor LED Bulb , 12 ก.ค. 2560 2.  ไฟ LED เส้นและอุปกรณ์หรี่ไฟ , 6 ต.ค. 2559 3.  DIY LED Emergency Light , 30 ก.ค. 2559 4.  ไฟแสงสว่าง ไฟฉุกเฉิน , 30 ก.ค. 2559 5.  DIY Portable 220 V LED Lamp , 1 ธ.ค. 2558 6.  LED Flood Light แบบต่างๆ , 15 พ.ย. 2558 7.  High Power LED Flashlight , 15 ก.ค. 2558 หมายเหตุ :  ผู้เขียนไม่ได้ขายและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายผลิตภัณฑ์ที่นำมาแสดงหรือทดสอบ และเขียนอธิบายการใช้งานไว้ในเว็บไซต์นี้ ถ้าผู้ใดสนใจจะซื้อไปใช้ กรุณาหาตามศูนย์การค้าชั้นนำ หรือค้นหาจากเว็บไซต์ต่างๆได้

1. Introduction

หลอด LED (Light Emitting Diode) เป็นอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำชนิดหนึ่งที่เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านจะปล่อยแสงสว่างออกมาทันที แสงสว่างที่เกิดขึ้นมาจากการเคลื่อนของอิเล็กตรอนภายในสารกึ่งตัวนำ LED มีน้ำหนักเบา ทนทาน และหลอดไฟ LED ประหยัดพลังงานได้มาก และมีความร้อนเกิดขึ้นน้อย

2. LED Ceiling Lamp

โคมไฟติดเพดาน (Ceiling Lamp) นั้นมีหลายแบบ เช่นแบบที่ใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ 32 วัตต์ แบบที่ใช้หลอดใส้ เช่น 3 x 40 วัตต์ และแบบใหม่ที่ใช้ LED ขนาด 17 - 18 วัตต์ ตามรูปที่ 1 - 2 จะเห็นได้ว่าภายในโคมไฟ มีแต่ LED ติดอยู่เป็นวงกลมรอบๆ รวม 32 ชิ้นและมีส่วนของวงจรอิเล็กทรอนิกส์อยู่ตรงกลาง ซึ่งเมื่อปล่อยให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน LED จะเปล่งแสงสว่างออกมา (รูปที่ 3)

จากการวัดทางไฟฟ้าพบว่า Eve LED Ceiling Lamp ใช้ไฟฟ้า 17 วัตต์ ซึ่งเมื่อเทียบกับโคมไฟหลอดฟลูออเรสเซนต์ 32 วัตต์ที่ใช้ Electronic Ballast จะใช้ไฟฟ้า 34 วัตต์ ดังนั้นในกรณีที่ใช้เป็นไฟหน้าบ้าน (รูปที่ 4) หากเปิดวันละ 10 ชั่วโมง ใน 1 ปี จะประหยัดค่าไฟฟ้าได้ = (34-17)x10x365x4.50/1000 = 279.23 บาท ซึ่งถ้าใช้ไปประมาณ 1 ปีครึ่ง ก็คุ้มค่าแล้ว ยิ่งกว่านั้น ในการใช้งานตามรูปที่ 4 เนื่องจากโคมไฟ LED มีความสว่างมาก ทำให้สามารถปิดไฟที่อยู่ในบริเวณนั้นลงไปได้อีก 1 ดวง ทำให้ประหยัดได้อีกประมาณปีละ 200 บาท

2.1 LED Circle Ceiling Lamp

โคมไฟติดเพดาน LED Circle แบบที่เป็นวงและตรงกลางเป็นช่องว่าง เหมาะสำหรับติดไฟเพดานที่มีเสาแกนกลางสำหรับใส่ฝาครอบ ตามรูปที่ 8

รูปที่ 8  ไฟเพดาน LED Circle ขนาด 20 วัตต์

3. LED Ceiling Lamp แบบหรี่ไฟได้

โคมไฟติดเพดาน LED ขนาด 15 - 18 วัตต์ ที่ใช้ตามระเบียงหรือทางเดินนั้น บางครั้งเราพบว่ามีความสว่างมาก จึงอยากจะลดแสงสว่างลงบ้าง ซึ่งก็มีแบบ Dimmable ขายด้วย เช่น ตามรูปที่ 9 เป็นแบบ LED Circle มีทั้งแสงสีขาวและแสง Warm White ขนาด 15 วัตต์

รูปที่ 9  ดวงโคมไฟเพดาน LED Circle แบบหรี่ไฟได้ (Dimmable)

รูปที่ 10  ดวงโคมไฟเพดาน LED Circle แบบหรี่ไฟได้ (Dimmable) และการต่อเข้ากับ Dimmer 220 V และอุปกรณ์วัดอุณหภูมิ

รูปที่ 11  ดวงโคมไฟเพดาน LED Circle แบบหรี่ไฟได้ (Dimmable) เมื่อเปิดใช้งานโดยปรับความสว่างที่ Dimmer ได้

ผลการทดลอง :
1) เปิดไฟสว่างที่สุด ใช้ไฟฟ้า 15 วัตต์ เมื่อเปิดทิ้งไว้ 3 ชั่วโมง อุณหภูมิที่แผ่น Heat Sink ขึ้นไปถึง 55 C
2) ใช้ Dimmer หรี่ไฟลงมา ให้กำลังไฟฟ้าเท่ากับ 12 วัตต์ อุณหภูมิที่แผ่น Heat Sink ลดลงมาเป็น 42 C แสงไฟมีกระพริบบ้างเล็กน้อย
3) ใช้ Dimmer หรี่ไฟลงมา ให้กำลังไฟฟ้าเท่ากับ 8 วัตต์ อุณหภูมิที่แผ่น Heat Sink ลดลงมาเป็น 38 C แสงไฟมีกระพริบมากขึ้น แต่ถ้ามองจากระยะ 2 - 3 เมตร จะไม่ค่อยสังเกตเห็น

4. หลอดไฟ LED แบบต่างๆ

หลอดไฟฟ้าที่ใช้กันโดยทั่วไปแบบที่ใช้ใส้ (Tungsten Bulb) นั้น ใช้ไฟฟ้ามากที่สุด สำหรับหลอดประหยัดพลังงาน และหลอดตะเกียบ ใช้ไฟฟ้าน้อยลง แต่ในปัจจุบัน หลอด LED ใช้ไฟฟ้าน้อยที่สุดและอายุการใช้งานก็ยาวนานที่สุดด้วย (ถ้าหากมีการผลิตที่ได้มาตรฐาน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในมีความทนทาน)

รูปที่ 12 แสดงหลอดไฟ LED ขนาด 4 และ 6 วัตต์ ขั้ว E27 ที่นิยมใช้กันทั่วไป หลอดแบบนี้มีให้เลือกตั้งแต่ 3 วัตต์ ขึ้นไป

รูปที่ 12  LED Bulb ขนาด 4 และ 6 วัตต์

รูปที่ 13  LED Bulb ขนาด 4 วัตต์ หลอดเล็ก 350 Lumens

รูปที่ 14  แสดงหลอดไฟ LED Downlight ขนาด 4 และ 5 วัตต์ ที่สามารถใช้แทนหลอด Downlight แบบ Halogen ขนาด 50 วัตต์ ได้ ดังนั้น จึงประหยัดไฟฟ้าได้มาก 85 - 90% ตัวอย่างการติดตั้ง ตามรูปที่ 5

รูปที่ 14  LED Downlight ขนาด 4 และ 5 วัตต์ ขั้ว GU 5.3

รูปที่ 15  LED Downlight ขนาด 3 วัตต์ 220 Lumens

รูปที่ 15A  LED Downlight 12 V ขั้วแบบ E27

รูปที่ 15B  LED Downlight 12 V ขั้ว E27 ใช้ทำเป็นไฟส่องสว่าง

รูปที่ 16  แสดงหลอด Candle หรือหลอดจำปา แบบ LED มีขายขนาด 3, 4, 5, 7, 9 วัตต์ หลอดแบบนี้ส่วนใหญ่ใช้ขั้วเล็ก E14 แต่ก็มีแบบขั้ว E27 ด้วย

รูปที่ 16  LED Bulb ขนาด 4 วัตต์ ขั้ว E14

รูปที่ 17  การใช้หลอด Candle แบบ Dimmable LED 4 วัตต์ จำนวน 6 หลอดสำหรับไฟเพดานแทนหลอดใส้ขนาด 6 x 40 วัตต์ (หรือจะใช้ 4 x 40 วัตต์ก็ได้)

คำนวณความประหยัดของโคมไฟเพดานห้องทำงาน (รูปที่ 17) เดิมใช้หลอดไฟจำปา ขนาด 40 วัตต์ จำนวน 4 หลอด = 160 วัตต์ เปิดตั้งแต่เวลา 8.00 - 12.00 น. และ 14.00 - 16.00 น. และตอนค่ำจาก 18.00 - 24.00 น. รวมวันละ 12 ชั่วโมง เมื่อเปลี่ยนมาใช้หลอด LED Candle ขนาด 4 วัตต์ จำนวน 6 หลอด ค่าไฟฟ้าลดลงปีละ = (160 - 24 x 12 x 365 x 4.5 = 2,680 บาท ซึ่งค่าลงทุน = (125 x 6) - (40 x4) = 590 บาท นั่นคือคุ้มการลงทุนในเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น

4.1 LED Filament Candle

รูปที่ 18  หลอดจำปาแบบ LED Filament Candle แบบ Dimmable 6 วัตต์

รูปที่ 19  LED Filament Candle แบบ Dimmable 6 วัตต์ x 7 หลอด
ติดที่ Chandelier