Digital Photography Audio & Video Computer Accessories Software Applications | Home |
|
การนำภาพถ่ายเข้าแสดงในแผนที่
Google Earth |
|
...... |
|
... | 1.
บทนำ การนำแผนที่ภาพถ่ายจากดาวเทียมพร้อมทั้งพิกัด Latitude และ Longitude รวม ทั้งข้อมูลอื่นๆ เช่น ระดับความสูง (Elevation) มาใช้งานนั้น มีประโยชน์มหาศาล ตัวอย่างเช่น การใช้ค้นหาสถานที่ต่างๆทั่โลก การใช้ประโยชน์ในการนำทาง การติด ตามการเคลื่นไหวของยานหาพนะ ระบบขนส่ง การค้นหาตำแหน่งในกรณีที่หลงทาง การหาพิกัดในการเดินเรือทางทะเล และการนำร่อง เป็นต้น ดังนั้น การใช้ระบบ GPS จึงได้เข้ามามีประโยชน์ในปัจจุบันมาก ดังจะเห็นได้จาก การใช้ระบบ GPS นำทาง ในรถยนต์ มอเตอร์ไซต์ และจักรยาน รวมทั้งโทรศัพท์มือถือก็ได้เพิ่มระบบ GPS เข้าไปด้วยแล้วหลายรุ่น ยิ่งกว่านั้น ได้มีการเพิ่มระบบ GPS เข้าไปในกล้องถ่ายรูป ดิจิตอล เพื่อระบุพิกัดของภาพที่ถ่าย ทำให้ทราบว่าภาพนั้นถ่าย ณ ที่ใด ซึ่งมีประโยชน์ ในด้านการท่องเที่ยว และสำหรับผู้สื่อข่าวที่ไปทำงานในสถานที่ต่างๆ 2. การสมัครเข้าใช้ (SignUp) การนำภาพถ่ายเข้าแสดงในแผนที่ Google Earth นั้น ทำได้โดยเข้าสู่เว็บไซต์ ้http://www.garmin.com คลิกที่ myGarmin แล้วทำการสมัครเป็นสมาชิก จากนั้นติดตั้ง Garmin Communicator Plugin ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นการติดตั้ง ครั้งแรกและครั้งเดียวเท่านั้น สำหรับผู้ที่ต้องการนำภาพถ่ายที่มีพิกัด Geotagged ไปใช้ในการนำทาง มีรายละเอียดวิธีการทำ คลิกอ่านได้ที่นี่ 3. ขั้นตอนการนำภาพถ่ายเข้า 1. คลิก Upload your photos จะปรากฎหน้าจอ ตามรูปที่ 1 เลือกรูปภาพถานที่ ท่องเที่ยว จากภาพถ่ายดิจิตอลของเราเอง (1) จากนั้นโปรแกรมจะทำการ Upload ภาพเองโดยอัตโนมัติ จนเสร็จ เมื่อ Upload ภาพเสร็จแล้ว จะปรากฎภาพเล็กๆ (Thumbnail) ขึ้นมา (2) ในรูปที่ 2 ให้ Key ชื่อรูป
เช่น Lumpini Park ลงในช่อง Title แล้วคลิก Map this
photo |
|
จากรูปที่ 3 ให้ Key ชื่อเมืองหรือสถานที่ ลงในช่อง City or place แล้วคลิก Next (4) จะปรากฎหน้าจอตาม รูปที่ 4 |
|||
|
หน้าจอรูปที่ 4 แสดงแผนที่ภาพถ่ายจากดาวเทียม (Satellite Map) ของ Google ซึ่งเราจะต้องทำการ ขยาย หรือเลื่อนไปมาเพื่อหาจุดที่จะเป็นตำแหน่งที่ถูกต้อง ที่สุดที่เราถ่ายภาพนั้นไว้ เมื่อพบแล้ว คลิก Mouse ปุ่มซ้าย ก็จะปรากฎสัญญลักษณ์สีแดง แสดงตำแหน่ง (5) ซึ่งอาจขยับ ไปมาให้ตรงตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นคลิก Save position (6) แล้วคลิก Finish (7) จะปรากฎหน้าจอตามรูปที่ 5 |
|||
|
ในหน้าจอรูปที่ 5 ผมได้ Upload ภาพถ่ายขึ้นไปก่อนหน้านี้ แล้ว 2 ภาพ ภาพใหม่ของ Lumpini Park เป็นภาพที่ 3 (8) ซึ่งปรากฎอยู่ทางซ้ายสุด จากนั้นเป็นขั้นตอนการสร้าง Tag เพื่อระบุคำที่ใช้ย่อๆ สำหรับ รูปภาพ ซึ่งอาจมีหลายคำก็ได้ ซึ่งจะช่วยให้ค้นหาภาพได้ง่ายขึ้น วิธีการคือ ไปที่ Create tag (9) Key ชื่อหรือคำที่ใช้เป็น Tag ลงในช่อง แล้วกด Create tag ก็จะปรากฎชื่อ Tag (10) จากนั้น กด Apply แล้วไปที่รูปภาพ Lumpini Park (8) คลิกที่รูป ก็จะปรากฎชื่อ Tag ที่ใต้รูป จากนั้น กลับไปที่ (10) จะเห็นคำว่า Done ให้คลิกที่ Done ก็เป็นอันเสร็จวิธีการ |
|||
|
เมื่อเราทำการกำหนดชื่อ Tag เสร็จแล้ว จากรูปที่ 5 ถ้าคลิกที่ รูป Lumpini Park (8) จะปรากฎหน้าจอตามรูปที่ 6 ซึ่ง แสดงรูปภาพของเรา (11) พร้อมทั้งเบอร์ ID 13626848 มีข้อความ Delete ถ้าต้องการลบรูปภาพออก และมีข้อความว่า "ภาพนี้ยังไม่ได้ผ่านการตรวจพิจารณา" ซึ่งถ้าคลิก [?] เขาจะ อธิบายเอาไว้หมดว่าจะต้องรอคิวการพิจารณาก่อน อาจใช้เวลา เป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือน เพราะมีคน Upload ภาพเข้ามามาก จากทั่วโลก ทางด้านขวาของภาพ จะเห็นแผนที่ภาพถ่ายจากดาวเทียม มี ตำแหน่งภาพของเรา และที่ใต้ภาพ (12) มีพิกัด Latitude และ Longitude ระบุเอาไว้ (ซึ่งตำแหน่งของภาพนี้ยังสามารถ ขยับได้อีกถ้าต้องการ) ถัดลงมาเป็นชื่อ Tag และรายละเอียดของภาพ รวมทั้งจำนวน ครั้งที่มีผู้เข้ามาชม และด้านล่างสุด เป็นเรื่องการกำหนดลิขสิทธิ์ การใช้รูปภาพ และ Extra Information เป็นรายละเอียดของ ภาพที่เราถ่ายมา เช่น กล้องอะไร ความไวแสงเท่าไร ISO เท่าร เป็นต้น |
|||
|
จากรูปที่ 6 ถ้าเราคลิกที่ See in Google Earth ที่ด้านบน ของรูปภาพ จะได้หน้าจอที่แสดงภาพเล็กๆบนแผนที่ภาพถ่าย จากดาวเทียม เป็นภาพชั่วคราวให้ดูไปก่อน และเมื่อได้รับการ ตรวจพิจารณาแล้ว ภาพนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นรูปสี่เหลี่ยมสีฟ้าแทน |
|||
|
|
|||
|
รูปที่ 9 แสดงจำนวนภาพถ่ายทั้งหมดของเราที่ได้ Post ขึ้นไป (15) โดยแสดงในแผนที่ภาพถ่ายจากดาวเทียม เมื่อคลิกที่รูปใด ก็จะมีกรอบสีแดงเกิดขึ้นที่รูปเล็กๆในแผนที่ |
จากวันที่ 31 ส.ค.
2551