Mobile Phone Related | Audio & Video | Computer Accessories  
   Software Applications | Miscellaneous |
Home
 

Micro SD / TF Cards
การใช้งานกับกล้อง
IP Cam, Dash Cam และ โทรศัพท์มือถือ

 
 



รูปที่ 1  Micro SD / TF Card
 

 
  การ์ดหน่วยความจำ (Memory Card) ที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ประเภทกล้อง เช่น กล้อง IP Camera กล้องติดรถยนต์ จะใช้การ์ดที่มีขนาดเล็กมาก ได้แก่ Micro SD Card หรือ TF Card (SD ย่อมาจาก Secure Digital และ TF ย่อมาจาก Tran Flash) ซึ่งมีหลาย Class แบ่งตามความเร็วในการเขียนข้อมูลขั้นต่ำ Class หลักๆ มีดังนี้
Standard Speed Class
Class 4 (C4) : ความเร็วเขียนขั้นต่ำ 4 MB/s เหมาะสำหรับวิดีโอ HD
Class 6 (C6) : ความเร็วเขียนขั้นต่ำ 6 MB/s
Class 10 (C10) : ความเร็วเขียนขั้นต่ำ 10 MB/s เหมาะสำหรับวิดีโอ Full HD 1080p และการถ่ายภาพต่อเนื่อง
UHS Speed Class (Ultra High Speed)
UHS Speed Class 1 (U1) : ความเร็วเขียนขั้นต่ำ 10 MB/s เทียบเท่า Class 10 เหมาะสำหรับวิดีโอ Full HD 1080p
UHS Speed Class 3 (U3) : ความเร็วเขียนขั้นต่ำ 30 MB/s เหมาะสำหรับวิดีโอ 4K
Video Speed Class
V10 : ความเร็วเขียนขั้นต่ำ 10 MB/s เหมาะสำหรับวิดีโอ Full HD 1080p
V30 : ความเร็วเขียนขั้นต่ำ 30 MB/s เหมาะสำหรับวิดีโอ 4K
V60 : ความเร็วเขียนขั้นต่ำ 60 MB/s เหมาะสำหรับวิดีโอ 4K/8K Bit Rate สูง
V90 : ความเร็วเขียนขั้นต่ำ 90 MB/s เหมาะสำหรับวิดีโอ 8K Bit Rate สูงมาก

การเลือกใช้งาน

1. โทรศัพท์มือถือ : ถ้าโทรศัพท์มือถือรองรับการ์ด Micro SD - ใช้การ์ด Class 10 สำหรับการใช้งานพื้นฐานความเร็ว  ใช้ A1 / A2 (Application Performance Class) สำหรับติดตั้งและใช้งาน Applications บนการ์ด หรือเลือก U3 / V30 สำหรับการถ่ายวิดีโอ 4K สำหรับความจุ (Capacity) นั้น มีให้เลือกตั้งแต่ 32, 64, 128, 256, 512 GB จนถึง 1TB ควรเลือกความจุที่สูงๆเอาไว้ถ้ามีงบเพียงพอ
หมายเหตุ
: ในปัจจุบันโทรศัพท์รุ่นใหม่ไม่รองรับการใส่ Micro SD Card แต่ใช้ Internal Memory แทน เช่น ขนาด 256 , 512 GB จนถึง 1 และ 2 TB ซึ่งผู้ซื้อจะต้องตัดสินใจเลือกตั้งแต่ต้น หากหน่วยความจำเต็ม แก้ไขได้โดย 1) ลบวิดีโอและรูปภาพออกบางส่วน 2) ใช้หน่วยความจำภายนอกประเภท OTG Flash Drive ช่วย 3) ใช้บริการ Cloud

2. IP Camera : กล้อง Security IP Camera จะเน้นการถ่ายวิดีโอด้วยความละเอียด 2 - 5 Mega Pixels จึงมีการเขียนบันทึกข้อมูลต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น Micro SD / TF Card ที่ใช้จึงควรจะต้องมีความทนทาน มิฉะนั้นการ์ดอาจจะเสียเร็ว ควรเลือกใช้การ์ด Class 10 (C10) หรือ UHS Speed Class 1 (U1) เป็นอย่างต่ำ และควรเลือกการ์ดที่ระบุว่า "Endurance" หรือ "High Endurance"
 
 
 


รูปที่ 2  Micro SD Card "High Endurance"
 

 
  หมายเหตุ : ในการใช้กล้อง IP Camera โดยใช้ Micro SD แบบทั่วๆไปและเกิดการ์ดเสียเร็วนั้น วิธีแก้อย่างหนึ่งคือ ปรับการบันทึกวิดีโอให้น้อยลง ซึ่งอาจทำได้สำหรับบางกรณีที่ไม่จำเป็นต้องบันทึกตลอดเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง วิธีคือเข้าไปตั้งค่าที่ TF Card Settings ให้บันทึกเฉพาะเมื่อมีการเคลื่อนไหว หรือ บันทึกเมื่อมีการเคลื่อนไหวในช่วงเวลาที่กำหนด
 
 
     
  การแก้ปัญหา IP Camera ไม่มีภาพที่บันทึก (หา TF Card ไม่พบ)
1. สาเหตุที่กล้องหา TF Card ไม่พบ : การ์ดรุ่นเก่าเกินไป (Class 4, 6) หรือมีความจุสูงเกินที่กล้องรองรับ การตั้งค่าบันทึกไม่ถูกต้อง, ใส่การ์ดไม่แน่น, การ์ดเสีย/ปลอม, ตัวกล้องมีปัญหาอาจต้อง Reset กล้องและเริ่มต้นใหม่
2. วิธีแก้ไขปัญหา :
2.1  ปิดกล้อง แล้วถอดการ์ดออกมา ตรวจความสะอาดแล้วเสียบเข้าไปใหม่ให้แน่น
2.2  ทำการ Format TF Card ก่อน โดยใช้ App. ของกล้องโดยไปที่ การตั้งค่า -> TF Card Setting -> กด Format แต่ถ้าทำไม่ได้หรือหาไม่พบก็จะต้อง Format โดยใช้คอมพิวเตอร์ ทำโดยถอดการ์ดมาเสียบเข้าที่ Micro SD/TF Card Reader ไปที่ This PC เมื่อปรากฎ USB Drive ของการ์ดขึ้นมา คลิกขวา จากนั้นเลือก Format เลือก FAT32 หรือ exFAT
2.3  ถอดการ์ดที่ Format แล้ว ไปเสียบเข้าที่ IP Camera เสียบปลั๊กไฟและรอให้กล้องทำงาน จากนั้นเช็คว่ากล้องหา TF Card พบหรือไม่ ถ้าหาไม่พบก็สันนิษฐานไว้ได้ว่าการ์ดเสีย
 
 
 

SD/Micro SD/TF Card Reader

 
 

เครื่องอ่านการ์ด SD/Micro SD/TF มีหลายแบบ แบ่งตามประเภทความจุของการ์ด (SD, SDHC, SDXC, SDUC) และพอร์ตเชื่อมต่อ (USB-A, USC-C,Micro uSB) และรวมถึงความเร็ว รูปที่ 3 แสดงเครื่องอ่านการ์ดที่ใช้พอร์ต USB 3 และรูปที่ 4 เป็นเครื่องอ่าน Micro SD/TF Card รุ่นใหม่ที่ใช้ได้กับพอร์ต USB-A และ USB Type C ใช้ได้ทั้ง PC และโทรศัพท์มือถือ สามารถเสียบการ์ดพร้อมกันได้และแสดงเป็น 2 Drives แยกจากกัน
 

 
 
รูปที่ 3  SD/Micro SD/TF Card Reader (ซื้อเมื่อต้นปี 2564)


รูปที่ 4  SD/Micro SD/TF Card Reader
 
 
 

3. กล้องติดรถยนต์ : การบันทึกวิดีโอและลงบนแผ่น Micro SD Card จะทำเมื่อเปิดสวิตช์ไฟรถยนต์หรือเมื่อมีการสั่นไหว การกระแทก ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ Micro SD Card แบบที่คงทนต่อการบันทึกวิดีโอตลอดเวลาและทนความร้อนได้ดี (High Endurance) สำหรับผู้ที่ใช้แผ่นแบบธรรมดานั้น ควรตรวจสอบเป็นระยะๆว่าแผ่นยังใช้ได้ดี คือยังบันทึกวิดีโอได้ บันทึกแบบ Loop Recording ได้ เปิดไฟล์มาดูได้หรือไม่ เพราะเมื่อเปิดไฟเข้ากล้อง กล้องจะทำงานและมีไฟแดงกะพริบๆ แสดงว่ากำลังบันทึกอยู่ แต่บันทึกลงแผ่น Micro SD Card ได้จริงหรือไม่ ควรตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจในการใช้งาน
 

.
 


รูปที่ 5  กล้องติดรถยนต์ (Dash Cam)
 
 
 

ข้อมูลเพิ่มเติม
1)  ก่อนใช้งาน Micro SD Card ควร Format โดยจะทำโดย Format ด้วยตัวกล้องเองหรือนำไป Format โดยใช้คอมพิวเตอร์ก็ได้
2)  ควรตั้ง Date & Time Stamp ให้วัน เดือน ปี และเวลาถูกต้อง เพื่อใช้อ้างอิงได้
3)  ถ้ามีคำว่า Memory Full และทำการ Format มีคำว่า "Windows was unable to complete the format" แสดงว่า Micro SD Card นั้นเสีย
4)  ความจุของการ์ดที่มีราคาถูกๆ การ์ดปลอม อาจจะได้น้อยมาก แต่ทางผู้ผลิตมีวิธี "หลอกความจุ" โดยเขียนโปรแกรมหลอกเครื่องเอาไว้ เช่น อ่านได้ว่ามีความจุ 512 GB แต่ความจุจริงได้เพียง 16 GB
 

 
 

หมายเหตุ : บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ในการใช้  Micro SD/TF Card  ผู้เขียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีผลประโยชน์กับการโฆษณาหรือการขายอุปกรณ์ต่างๆที่แสดงไว้

 


 

จากวันที่  14 .. 2568
ปรับปรุงล่าสุด :  18 .
. 2568