Digital Photography  Audio & Video  Computer Accessories  Software Applications  Miscellaneous | Home                    
....

ประสบการณ์จากการผ่าตัดต้อกระจก
(Cataract Surgery)

 

ต้อกระจก (Cataract) เป็นโรตตาที่เป็นกันมาก มักจะเกิดขึ้นได้กับผู้ที่มีอายุมาก เช่น 40 ปีขึ้นไป ผู้เขียนมีเพื่อนและคนรู้จักที่ได้ไปทำการผ่าตัดต้อกระจกตาทั้ง 2 ข้างมาแล้วนับสิบคน มีอายุ 50 ปีกว่าๆขึ้นไปจนถึง 87 ปี และผู้เขียนเองก็ได้เป็นต้อกะจกตาทั้ง 2 ข้างมานานหลายปีแล้ว ได้สอบถามเพื่อนๆที่ไปผ่าตัดตามาได้ข้อมูลมาบ้าง แต่ไม่ละเอียดนักและเกิดความไม่แน่ใจว่าผ่าตัดแล้วผลจะเป็นอย่างไร จนกระทั่งการมองเห็นเริ่มมีปัญหามากขึ้นทีละน้อย ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายในการขับรถเมื่อมีการจราจรหนาแน่นหรือการขับรถในเวลากลางคืน และการอ่านหนังสือก็ต้องการแสงสว่างมากขึ้น ดังนั้น จึงได้ตัดสินใจเข้าทำการรักษาโดยการผ่าตัดต้อกระจกเปลี่ยนเลนส์ตาทั้ง 2 ข้าง ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง  และได้เขียนบทความนี้ขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเล่าถึงประสบการณ์ในการผ่าตัดต้อกระจก เพื่อประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจต่อไป

ต้อกระจกคืออะไร  “ต้อกระจก” คือ ภาวะที่เลนส์ภายในลูกตาขุ่น ส่งผลให้เกิดอาการตามัว และมีการมองเห็นไม่ปกติ เช่น มองเห็นภาพเบลอ สีเพี้ยน หรือคล้ายกับหมอกบังตาตลอดเวลา โดยต้อกระจกนั้นมักพบในผู้ที่มีอายุ 40-50 ปีขึ้นไป อาจเกิดได้กับตาทั้ง 2 ข้าง หรือข้างเดียวก็ได้

ต้อกระจกอาการเป็นอย่างไร มีกี่ระยะ  อ่านได้ที่ Link นี้

ขั้นตอนการผ่าตัด (จากประสบการณ์)

1.  ไปถึงโรงพยาบาลเวลา 8.00 . เมื่อพร้อมแล้วพยาบาลนำไปยังห้องเตรียมการก่อนผ่าตัด (Pre Operative Care Unit) ให้คนไข้เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างมือและล้างหน้าให้สะอาดด้วยสบู่เหลวน้ำยาฆ่าเชื้อ จากนั้นขึ้นนอนบนเตียงในห้องเตรียมการซึ่งจะเป็นห้องรวม มีเตียงคนไข้หลายเตียง มีม่านกั้นเป็นสัดส่วน จากนั้น พยาบาลจะหยอดตาด้วยยาหยอดตาหลายชนิดตามลำดับ จะหยอดตาบ่อยมากประมาณ 8 - 10 รั้ง ซึ่งคงเป็นยาฆ่าเชื้อ ยาขยายม่านตาและยาที่ทำให้ชา รวมทั้งหมดใช้เวลาเกือบ 2 ั่วโมง

2.  เมื่อตรวจดูตาพร้อมแล้ว พยาบาลจะเข็นเตียงคนไข้ไปยังห้องผ่าตัดที่อยู่ใกล้ๆกัน ให้คนไข้ขยับตัวย้ายไปนอนบนเตียงผ่าตัด จากนั้นจะมีการปิดตาข้างที่ไม่ผ่าตัดเอาไว้แบบง่ายๆ แล้วมีผ้ามาคลุมตัวและปิดใบหน้า โดยมีช่องเว้นตาข้างที่จะผ่าตัด พยาบาลจะดึงหรือถ่างเปลือกตาให้กว้างแต่ไม่เจ็บ หมอที่ทำการผ่าตัด (เจ้าของไข้) เข้ามาเริ่มทำการผ่าตัดโดยมีผู้ช่วย และการผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 30 - 40 นาที

3. เมื่อผ่าตัดเสร็จแล้ว พยาบาลจะปิดตาและมีที่ครอบตามาปิดไว้ด้วย จากนั้นจะนำคนไข้ไปนอนพักที่ห้องใกล้ๆกัน ประมาณ 30 - 45 นาที คนไข้ก็สามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าได้

การผ่าตัดของบางโรงพยาบาลจะให้คนไข้กลับบ้านได้แล้วมาเปิดตาในวันรุ่งขึ้น แต่ในกรณีของผู้เขียน จะรออยู่ที่โรงพยาบาลโดยไปทานอาหารกลางวันได้และรอประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง ก็ไปพบพยาบาลเพื่อเปิดตาและพบหมออีกครั้งโดยหมอจะทำการตรวจตาด้วยกล้องใช้เวลาสั้นๆ จากนั้นหมอก็จะนัดให้มาตรวจ Follow up ในเวลาอีกประมาณ 1 - 2 สัปดาห์ แล้วคนไข้ก็กลับบ้านได้

การดูแลตัวเองหลังจากผ่าตัด

หลังการผ่าตัดควรจะต้องดูแลตัวเองโดยเคร่งครัด ดังนี้

1) นระยะ 2 ันแรกจะต้องหยอดยาตาตามที่หมอสั่งทุกๆ 2 ั่วโมงในเวลาที่ตื่น ทานยา (ิตามิน) ำความสะอาดเปลือกตาและขอบตา จากนั้นอีกเป็นเวลา 1 - 2 ดือน จะต้องหยอดตาตามที่หมอสั่ง
2) ะวังอย่าให้น้ำเข้าตา ดังนั้นควรใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดหน้าแทนการล้างหน้า และห้ามยืนสระผม ถ้าจะสระผมควรไปทำที่ร้าน หรืออาจจะสวมแว่นตาสำหรับว่ายน้ำที่มีขอบยางป้องกันน้ำซึมไปเข้าตา
3) ้ามขยี้ตาและเวลานอนให้ใช้ที่ครอบตาเสมอเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ัปดาห์ ถึง 1 ดือน
4) มื่อออกไปกลางแจ้งหรือที่ๆมีแดดจัด ควรสวมแว่นตากันแดด
5) ะวังฝุ่นเข้าตา ดังนั้นควรละเว้นการกวาด ทำความสะอาดบ้านด้วยตนเอง
6) ้ามยกของที่หนักมาก
7) ลดการใช้สายตาลง เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือ การใช้คอมพิวเตอร์ การดูทีวีนานๆ เพื่อป้องกันการแสบตา ตาอักเสบ
 

 
  ผลของการผ่าตัดต้อกระจก ครั้งที่ 1 ตาข้างขวา

วันที่ 1 - 2 : มื่อกลับบ้านแล้ว จากฤทธิ์ของยาขยายม่านตา จะทำให้มองเห็นภาพสว่างขึ้น ท้องฟ้าสว่างขึ้น ไฟต่างๆจะสว่างขึ้นมากกว่าเดิม และอาการนี้จะเป็นอยู่ประมาณ 2 ัน จึงควรระมัดระวังให้มาก โดยสวมแว่นตากันแดด และปฏิบัติตามข้อกำหนดจากแพทย์ในการหยอดยาตา เช็ดเปลือกตาและขอบตา และทานยา (ิตามิน) ำหรับยาหยอดตามี 3 นิดคือ ยาหยอดตาชนิดที่ 1  เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ยาหยอดตาชนิดที่ 2  เป็นยาลดการอักเสบ และยาหยอดตาชนิดที่ 3  เป็นน้ำตาเทียม หยอดตาเมื่อมีอาการเคืองตา แสบตา ตาแห้ง

วันที่
3 - 4 : าข้างที่ผ่าตัด อาจจะมองเห็นภาพค่อนข้างสว่างกว่าตาอีกข้างหนึ่ง และอาจมองเห็นได้ชัดมาก หรือชัดผิดปกติ เช่น มองเห็นพื้น ผนัง ใบหน้า ชัดมาก และเห็นสิ่งสกปรกต่างๆได้มากขึ้น จากการปิดตาทีละข้างแล้วเทียบการมองเห็น พบว่า ตาข้างที่ผ่าตัดแล้ว จะเห็นภาพชัดขึ้น สว่างขึ้น และมีสีขาวมากขึ้น เมื่อเทียบกับตาข้างที่ยังไม่ได้ผ่าตัดซึ่งมองภาพไม่ชัดมาก มีขุ่นๆบ้างและสีขาว ไม่ขาวนักแต่ออกไปทาง Warm ิดๆ

ผลของการผ่าตัดต้อกระจก ครั้งที่ 2 ตาข้างซ้าย

การผ่าตัดดำเนินไปด้วยดีเช่นเดียวกับการผ่าตัดครั้งแรก หลังจากผ่าตัดและพักแล้ว ได้ทำการเปิดตาในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งหลังจากการผ่าตัดซึ่งเร็วกว่าครั้งแรก จากนั้นพบหมอ ส่องกล้องตรวจผลและกลับบ้านได้

ผลการมองเห็นเมื่อผ่าตัดตาไปแล้วทั้ง 2 ข้าง คือมองเห็นได้ชัดทั้งภาพ ไม่มีการขุ่นมัวหรือมองเห็นเหมือนมีหมอกบางๆ โดยในวันแรกๆจะเห็นแสงสว่างมากขึ้นออกไปทางสีขาวมากขึ้นและภาพชัดมากกว่าปกติ เป็นอาการเหมือนกับที่เกิดกับที่เคยเกิดกับตาข้างขวามาก่อน ซึ่งหลังจาก 3 - 4 วัน อาการนี้ก็กลับเป็นปกติ แต่โดยรวมแล้วมองเห็นภาพชัดขึ้นและสีสวยขึ้น


ผลกระทบหลังการผ่าตัด (After Effects)

ผลกระทบภายหลังการผ่าตัดสรุปได้ดังนี้
1) มีอาการเคืองตาและแสบตา อาจจะปวดตาเล็กน้อยเป็นบางครั้ง โดยอาการนี้อาจจะเป็นอยู่ประมาณ 1 ัปดาห์ หลังจากนั้นอาการจะลดลง
2) อาจมองเห็นขี้ผงเล็กๆ ลอยไปลอยมา ซึ่งขี้ผงเหล่านี้ติดอยู่แล้วในดวงตาภายใน ดังนั้น เมื่อเสนส์ตาใสสะอาด จึงทำให้อาจมองเห็นขี้ผงเล็กๆเหล่านี้ได้ (กรณีนี้ แต่ละคน ตาแต่ละข้างอาจไม่เหมือนกัน บางคนอาจไม่เห็นขี้ผงเลยก็ได้)
3) ทางด้านการมองเห็น มองเห็นภาพได้ชัดเจนคมชัดขึ้นกว่าเดิมมากพอควรทั้งระยะไกลและระยะใกล้ ภาพมีสีสวยขึ้นโดยเฉพาะเมื่อดูทีวีและสว่างขึ้นด้วย
4) ด้านการอ่านหนังสือ สามารถอ่านหนังสือได้เกือบเหมือนปกติก่อนทำการผ่าตัด สำหรับการอ่านหนังสือระยะใกล้มาก เช่น 20 - 30 .. และหนังสือตัวเล็กๆก็ยังต้องใช้แว่นสายตาช่วยเหมือนเดิม (แต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน บางคนผ่าตัดมาแล้วต้องไปตัดแว่นตาใหม่สำหรับอ่านหนังสือ)

ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดต้อกระจก

ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดต้อกระจกขึ้นอยู่กับว่าจะเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐ หรือ โรงพยาบาลเอกชน และชนิดของเลนส์ตาเทียมที่ใช้ ซึ่งมีหลายแบบ และถ้าต้องใช้เลนส์ที่ช่วยแก้สายตาเอียงด้วย ราคาก็จะแพงมากขึ้น จากการค้นหาข้อมูลและสอบถามผู้ที่ได้ไปทำการผ่าตัดมาแล้ว ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดต้อกระจกตาต่อข้าง ประมาณ 40,000 าท ถึง 130,000 าท
 
//

จากวันที่  9 .. 2567
ปรับปรุงล่าสุด :