การบันทึกรายการโทรทัศน์โดยระบบ HD PVR
(เจาะลึกและทดสอบการใช้งาน)
รูปที่ 1ชุด HDD External Enclosure
และ Hard Disk ขนาด
2.5" (คลิกดูภาพใหญ่)
รูปที่ 2ด้านหลังของ Set - Top BoxHD - S200C (Cable) (คลิกดูภาพใหญ่)
รูปที่ 3
HDD External Enclosure และ Hard
Disk 2.5" ของ Western Digital
HD ขนาด 500 GB SATA 5,400
RPM Scorpio "Blue"
รุ่น
WD5000BPVT
รูปที่ 4 รีโมทคอนโทรล
การรับชมรายการที่มีระบบเสียง Dolby Digital 5.1
รายการโทรทัศน์ของ TrueVisions
มีบางช่องที่ส่งสัญญาณเสียงระบบ Dolby
Digital 5.1 จากข้อมูลในเว็บไซต์ ระบุว่า มีช่อง
121 (HBO) ช่อง 129 (AXN)
และช่อง 131 (iConcerts)
แต่จากการทดลองเปิดดู บันทึกรายการแล้วเปิดเล่นในระบบ
Home Theater เมื่อวันที่
25 พ.ค.
2555 เวลา 15.20 น.
พบว่า มีแต่ช่อง 129
เท่านั้นที่ให้เสียง Dolby Digital 5.1
และถ้าเปิดดูช่อง 127 (Fox HD
Premium) ที่หน้าจอเขียนว่า
Dolby - Broadcast in 5.1 Surround Sound
แต่ความจริงเป็น Dolby Surround
ไม่ใช่ Dolby Digital 5.1(ความจริง ช่องที่ส่งระบบ
Dolby Digital 5.1
ก็ควรบอกไว้ให้ชัดๆเลย หรือว่ามีเฉพาะบางรายการเท่านั้น
ส่วนที่ไม่ใช่ 5.1
ก็ไม่จำเป็นต้องบอก
เพราะระบบเสียง 5.1 ดีกว่าระบบ
Surround หรือ
Prologic มาก)
การจะรับเสียงระบบ Dolby
Digital 5.1 นั้น ท่านจะต้องใช้สาย
Optical Fiber ต่อจาก
Set Top Box ออกไปยังชุด
Home Theater
หรืออุปกรณ์สำหรับบันทึกรายการ และตั้งค่าเสียงที่
Set Top Box ก่อนโดยใช้เมนู
ตั้งค่า -> เสียง
-> เลือก DD
หรือ Dolby Digital
ผลการใช้งาน
1.เมื่อเริ่มต้นการใช้งานครั้งแรก
ระบบจะให้ทำการ Format Hard Disk ก่อน
ซึ่งก็ทำตามโดยเลือกกดที่ "ใช่"
และเมื่อระบบพร้อมแล้วก็เริ่มใช้งาน PVR
ได้ เป็นขั้นตอนที่ไม่ยาก 2.
การอัดรายการทำได้โดยเลือกรายการที่ต้องการ แล้วกด สั่งอัดรายการ
จะมีเครื่องหมายการอัด มีวงกลมสีแดงให้เห็น ขั้นตอนการทำงานต่างๆ
ออกแบบมาดี ใช้งานง่าย รายการที่อัดลง Hard Disk
ทำได้ทั้งรายการที่เป็นระบบ SD
หรือระบบ HD
และตรวจเช็คได้ก่อนจะอัดว่า
Hard Disk
มีพื้นที่จะอัดรายการได้อีกกี่ชั่วโมง 3.
การตั้งอัดรายการล่วงหน้า
เครื่องจะเริ่มอัดรายการก่อนจะถึงกำหนดรายการประมาณ 5 นาที
และอัดต่อไปแม้ว่ารายการจบแล้วอีกประมาณ 5 นาที
ทั้งนี้คงได้ออกแบบไว้เผื่อมีการคลาดเคลื่อนในเวลาออกอากาศของรายการนั้นๆ
จากการทดลองใช้ ยังไม่พบเหตุการณ์ที่มีรายการพิเศษมาแทรก
ทำให้รายการปกติต้องเลื่อนออกไป เช่น เลื่อนออกไป 30 นาที
ถ้าเป็นแบบนี้ การอัดก็อาจจะได้ไม่ครบทั้งรายการ 4. ในการ Playback
เพื่อชมรายการที่อัดไว้นั้น สามารถใช้ปุ่มที่รีโมทคอนโทรลควบคุมได้เหมือนเครื่องเล่นเทป หรือ DVD
และปุ่ม Fast Forward ก็ใช้งานได้ดี
ปรับความเร็วเดินหน้าได้ถึง 30X
การปรับเดินหน้าเร็วนี้มีประโยชน์ในการ Skip
ผ่านช่วงที่เป็นโฆษณาได้ 5. เมื่อดูรายการแล้วหยุดไว้
ต่อมากลับมาดูรายการนั้นใหม่ มี
Feature ให้เลือกดูต่อจากเดิมได้
นับว่ามีประโยชน์มาก 6. ภาพที่อัดไว้โดยระบบ HD PVR เมื่อทำการเล่น
(Playback) พบมีคุณภาพดีเท่ากับต้นฉบับ
(ดูยากว่าแตกต่างกันหรือไม่) 7.
ในการอัดรายการโดยต่อด้วยสาย
Optical Fiber นั้น
แม้ว่าจะใช้สายที่มีคุณภาพดีแล้ว
แต่เสียงยังดังน้อยไปหน่อย
ทั้งนี้ได้เร่งระดับเสียงสูงสุดแล้ว ดังนั้น การออกแบบ
Set Top Box รุ่นต่อไป
จึงควรจะต้องมีการปรับปรุง ในเรื่องความคมชัดของภาพในระบบ
SD และระดับเสียง 8.
ถ้ารับชมในระบบ HD ที่มี
12 ช่อง ณ
วันที่ทดสอบ
ไปนานๆ จะชอบในความชัดเจนและคุณภาพของสี
จนในที่สุดแทบจะไม่กลับไปดูรายการช่อง SD ยกเว้นช่องที่เป็น Free TV
หมายเหตุ
- ผังรายการ
ผังรายการมีประเด็นการแสดงชื่อรายการโดยเฉพาะส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษจะตัดคำสั้นเกินไปจนทำให้ไม่ทราบว่าคืออะไร
เช่น ตัวอย่างที่ลูกศรชี้
(A) ตัดคำเหลือเพียง
Va เท่านั้น
ถ้าทำให้อ่านเข้าใจได้จะช่วยในการรับชมได้มากชื่อรายการ
หรือภาพยนตร์ที่เป็นภาษาอังกฤษนั้น
ควรจะมีไว้และใช้ชื่อเต็มส่วนชื่อช่องนั้น แม้ว่าใช้ภาษาอังกฤษ
ก็ไม่มีปัญหา เช่นใช้
FOXP HD
ก็จะทำให้มีที่เหลือสำหรับใส่ชื่อภาพยนตร์ได้
จนอ่านรู้เรื่อง ไม่ต้องไปหาหนังสือรายการมาเปิดดู
รูปที่ 5 ชื่อรายการภาษาอังกฤษในผังรายการ
.........................................................................................................
ทำอย่างไรจึงจะอัดรายการโทรทัศน์ Hi Def
ลง Hard Disk ของ
PC ได้ จากการค้นในอินเทอร์เน็ต
พบว่ามีผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับอัดรายการโทรทัศน์ ระบบ
HD จาก Set
- Top Box ลง Hard Disk
ของเครื่อง PC ได้ เช่นอุปกรณ์
Hauppauge 1212 Hi Def PVR (The
World's First Hi Def Video Recorder)
ซึ่งจำเป็นจะต้องต่อกับ PC
โดยใช้สาย USB และลง
Software เพื่อให้ระบบทำงานได้
อ่านรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์
Hauppauge.com
และดูราคาได้ที่
B&H Photo Video
สำหรับคู่มือการใช้ดูที่นี่
รูปที่
15หน้าจอแสดงว่า เมื่อใช้ Hard Disk
ขนาด 2TB
ต่อเข้ากับระบบ HD PVR
จะสามารถอัดรายการได้ถึง 518
ชั่วโมง
ระบบ
HD PVR (Personal Video Recorder) โดยปกติถ้าเรามีเครื่อง
DVD Recorder ก็จะสามารถอัดรายการโทรทัศน์ต่างๆ ลง
Hard Disk หรือบันทึกลงในแผ่น
DVD ได้ แต่การบันทึก จะทำได้ในแบบ
SD (Standard Definition)
และมีข้อจำกัดที่ขนาดของ Hard Disk
ซึ่งอาจจะมีขนาดใหญ่ไม่มากนัก เช่น 320 GB
เป็นแบบติดตั้งภายใน
HD PVR เป็นระบบที่สามารถบันทึกรายการโทรทัศน์แบบ
SD และแบบ HD
ลง External Hard Disk
ที่ต่อเข้ากับกล่องรับสัญญาณ (Set -Top Box)
โดยใช้สาย e-SATA และสาย
USB สำหรับจ่ายไฟฟ้าให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้งานง่าย โดย
External Hard Disk ขนาด 2.5
นิ้วนี้ ติดตั้งอยู่ใน HDD Enclosure
เป็นแบบที่ถอดเปลี่ยนได้ง่ายและมีขนาดความจุ
500 GB ซึ่งสามารถอัดรายการโทรทัศน์ระบบ
HD ได้นาน 84 ชั่วโมง
หรืออัดรายการแบบ SD ได้นานถึง 340ชั่วโมง (HDD ของ Western Digital
ขนาดนี้ มีความจุถึง 1 TB
คือรุ่น WD10JPVT)
นอกจากนั้นระบบ HD PVR
มีความสามารถต่างๆ ที่น่าสนใจ คือ
หยุดรายการสดได้นานถึง 90 นาที
ด้วยการใช้ Hard Disk
ข้อจำกัด ระบบ HD PVR
ออกแบบมาให้ใช้กับกล่องรับสัญญาณ Set-Top Box
และถูกควบคุมด้วย Software
ดังนั้นจะเปิดดูรายการที่อัดไว้ได้เฉพาะที่เครื่องรับโทรทัศน์นั้น
เท่านั้น ถ้าหากถอดเอา Hard Disk
ไปเสียบเข้าที่ External HDD Enclosure
ตัวอื่น เพื่อต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ หรือ HD
Player ก็จะเล่นไม่ได้ ซึ่งผู้เขียนได้ทดลองแล้ว และพบว่า
ไฟล์ที่ใช้เป็น File extension .STR
ซึ่งจากการค้น พบว่า
STREAM.STR คือ
dBase Structure List Object File
STR = Sony PlayStation steam file. Movie file format used by
PlayStation and video games.
การบันทึกรายการลงแผ่น
DVD สามารถทำได้ ถ้ามีเครื่อง
DVD Recorder อีก 1
เครื่อง โดยขั้นแรกบันทึกรายการลงใน
Hard Disk ของระบบ HD PVR ก่อน
จากนั้นต่อสาย AV จาก
Set - Top Box ไปยังเครื่อง
DVD Recorder สั่งเล่นรายการที่ต้องการ
และสั่งบันทึกรายการนั้นลงในแผ่น DVD
ได้ จากการทดลองอัดรายการช่อง HD
ลงในระบบ HD PVR แล้วเล่นรายการนั้น
และอัดลงในแผ่น DVD แล้วนำมาเล่นที่
DVD Player ได้ภาพที่มีความชัดเจนดีพอสมควร
แม้ว่าจะได้คุณภาพในระดับ
Standard Definitionก็ตาม
รูปที่ 6การต่อวงจรระบบ HD PVR
และ DVD Recorder(ถ้ามี)
1.
การถอดอุปกรณ์เชื่อมต่อออกจาก
Set Top Box ทำได้ดังนี้ เข้าไปที่ เมนู หรือกดปุ่ม
เมนู ที่รีโมทคอนโทรล ของ TrueVision
แล้วเลือก การตั้งค่า
จากนั้นเลือก ถอดอุปกรณ์ต่อเชื่อม
จะปรากฎหน้าจอเล็กๆขึ้นมาให้ยืนยัน กด OK (ใช่)
จากนั้น รอโปรแกรมทำงาน
เมื่อบอกว่าถอดอุปกรณ์ได้ ก็ถอดสาย e-SATA
ออกจาก Set Top Box
2. การติดตั้งอุปกรณ์ใหม่
ระบบ External HDD Docking Stationทำได้ดังนี้
ต่อสาย e-SATA เข้าที่ Set
Top Box และที่ตัว Docking
Station จากนั้นต่อสาย
Power Supply (Adapter) เข้าที่
Docking Station เสียบ
Hard Disk ลงไปในช่องของ
Docking Station
แล้วเปิดสวิทช์ รอให้โปรแกรมทำงาน แล้วจะมี
Window เล็กๆขึ้นมาที่จอ
TV แจ้งว่า Hard Disk
ที่เราใช้ ไม่ใช่แบบที่ระบุ
ก็ไม่ต้องสนใจ กดปุ่ม OK
ที่รีโมทคอนโทรล แล้วรอ จากนั้น อาจจะมี Window เล็กๆ ขึ้นมาว่า
ต้องการ Format Hard Disk
สำหรับการใช้งานครั้งแรก ก็กดปุ่ม OK
ไป โปรแกรมก็จะทำการ
Format Hard Disk รอระยะหนึ่ง
จากนั้น จะมีข้อความบอกว่า ระบบ HD PVR
สามารถใช้งานได้แล้ว
ก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้นวิธีการ
และสามารถทำการบันทึกรายการต่างๆได้ทันที
ซึ่งด้วยความจุที่สูงมาก อาจจะบันทึกรายการแบบ
HD ได้นานถึง518 ชั่วโมง
(ดูรูปที่
15) หรือ
6.17 เท่า ของความจุ
Hard Disk ตัวเล็ก
500 GB และถ้า
Disk เต็ม
ก็ซื้อตัวใหม่มาใช้ต่อไปได้
ถ้าต้องการเก็บรายการที่บันทึกไว้ดูต่อไปโดยไม่ลบ