Digital Photography   Audio & Video   Computer Accessories   Software Applications | Miscellaneous | Home
 

เครื่องฟอกอากาศแบบ DIY
(DIY - Air Purifier)

 

 
  เครื่องฟอกอากาศที่นำมาประกอบเองได้โดยง่าย มีราคาถูกระดับ 1,100 - 1,200 บาท สามารถสั่งซื้อได้โดยไม่ต้องรอนานนัก และสามารถกรองอากาศได้ดีเทียบเท่าเครื่องที่มีราคาแพงกว่าหลายเท่า เหมาะสำหรับใช้ในห้องที่มีขนาดประมาณ 20 - 25 ตารางเมตรนั้น มีขายหลายแบบ ซึ่งเกือบทั้งหมดใช้ใส้กรองอากาศแบบของ Xiaomi คือเป็นของเทียบเท่าที่มีราคาถูก แต่ก็ใช้ได้ดี หรือผู้ใช้จะซื้อของ Xiaomi แท้มาเปลี่ยนในภายหลังก็ได้

ในการเลือกซื้อ ควรดูขนาดพัดลมดูดอากาศที่มีแรงดูดมากพอควร เช่น ขนาดต่ำสุด
4.5" และขนาด 6" และมีฝาครอบปิดมิดชิดหรือเป็นรูปทรงกระบอกคล้ายอุโมงค์ลมเพื่อให้การดูดอากาศเข้ามากรองมีประสิทธิภาพดี


แบบที่ 1.  เครื่องฟอกอากาศ eAir1 Pro  ตัวอย่างการนำเครื่องฟอกอากาศแบบ DIY ซึ่งมีขายเป็นชุด นำมาเสียบเข้าด้วยกัน ต่อไฟเข้าขั้วโดย DC Jack ก็ใช้ได้ มาทดลองใช้งาน แสดงได้ตามรูปที่ 1
 
 
 


รูปที่ 1  เครื่องฟอกอากาศแบบ DIY
 

 
 


รูปที่ 2  ส่วนประกอบของเครื่องฟอกอากาศแบบ DIY
 

 
 


รูปที่ 3  ส่วนฝาครอบ พัดลมดูดอากาศขนาด 4.5 นิ้ว
 

 
 


รูปที่ 4  พัดลมดูดอากาศ
 

 
 


รูปที่ 5  ทดสอบการใช้ไฟฟ้า
 

 
  ทดสอบ CADR (Clean Air Delivery Rate) หรือ Airflow Rate
การทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศโดยวัดค่า CADR นั้น ส่วนมากผู้ผลิตจะทำการทดสอบในห้องปฎิบัติการ สำหรับการทดสอบง่ายๆนั้นอาจเรียกว่าทดสอบหาอัตราการถ่ายเทอากาศที่ผ่านเครื่องกรอง (Airflow Rate) ซึ่งทำโดยใช้เครื่องวัดความเร็วลม (Anemometer) วัดความเร็วลมที่ออกมาจากเครื่องกรองอากาศ เป็น meter/sec. ซึ่งอาจวัดที่บริเวณหน้าตะแกรงที่ลมออกหลายๆจุดมาหาค่าเฉลี่ยหรือวิธีที่ผู้เขียนใช้คือทำท่อลมต่อออกมาจากด้านบนเพื่อให้ลมมีความสม่ำเสมอมากขึ้น แล้ววัดความเร็วลมในบริเวณพื้นที่รอบนอกและพื้นที่รอบใน ตามรูปที่ 6
 
 
 


รูปที่ 6  การวัดความเร็วลมที่ออกมาจากเครื่องฟอกอากาศ (Air Velocity)
(
ผ่านใส้กรองและแผ่นกรอง รวม 3 ชั้น)

 

 
 


รูปที่ 7  พื้นที่ลมออกจากเครื่องกรองอากาศ (A1+A2)
 

 
  การคำนวณ Airflow Rate ทำได้ดังนี้
1.  พื้นที่ระบายลมทั้งหมด = Pi x r1 x r1 = 3.14159 x 7 x 7 = 153.94 ตารางเซนติเมตร,  พื้นที่ระบายลม A2 = Pi x r2 x r2 = 3.14159 x 2 x 2 = 12.57 ตารางเซนติเมต
     ดังนั้น พื้นที่
A1 = 153.94 - 12.57 = 141.37 ตารางเซนติเมตร
2วัดความเร็วลมในบริเวณพื้นที่ A1 ได้เฉลี่ยประมาณ 2.7 m/s และในพื้นที่ A2 ได้ 1.7 m/s
3.  Airflow
ในพื้นที่ A1 = 141.37 x 2.7 x 3600  / 100 x 100 = 137.41 cu.m/h
4.  Airflow
ในพื้นที่ A2 = 1.7 x 3600 x 12.57 / 100 x 100 = 7.69 cu.m/h
     ดังนั้น Airflow ทั้งหมด = 137.41 + 7.69 = 145.1 cu.m/h (ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง)
 
 
 




รูปที่ 7  การใช้งานจริง ตั้งเครื่องฟอกอากาศสูงจากพื้น 20 ..
เปิด ปิด อัตโนมัติตามเวลาที่ตั้งไว้ ควบคุมโดย Wi - Fi Smart Plug

 

 
  ผลการใช้งาน สรุปได้ดังนี้
1)  การประกอบง่ายมาก
2)  การใช้ไฟฟ้าเมื่อเร่งให้พัดลมหมุนแรงสุด ใช้ไฟประมาณ 5.7 วัตต์ ซึ่งน้อยมาก
3)  เสียงเงียบมาก
4)  ทดสอบโดยใช้งานในห้องขนาด 25 ตารางเมตร (5 x 5 x 2.6 .) ห้องแรก กรองอากาศที่มี PM 2.5 ระดับ 35 ลดลงเหลือ 2 - 3 ได้ และห้องที่ 2 ขนาดเท่าๆกันแต่มีเฟอร์นิเจอร์น้อยกว่า ก็ลดค่า PM 2.5 จากระดับ 35 ลงมาได้ถึง ระดับ 3 - 4
5)
ผลการทดสอบ ค่า PM 2.5 ลดลงจาก 28 เป็น 7 ในเวลาประมาณ 30 นาที แสดงได้ตามกราฟในรูปที่ 8
6) ทดสอบ Airflow Rate คำนวณได้ประมาณ 145.1 cu.m/h
Note : ในโฆษณาที่ขาย ระบุว่า Airflow = 150 cu.m/h
 
 
 


รูปที่ 8  ผลการทดสอบ PM 2.5 vs. Time
 

 
  แบบที่ 2เครื่องฟอกอากาศแบบพัดลม 3.5 นิ้ว 12 V.  
  เราสามารถประกอบเครื่องฟอกอากาศแบบง่ายๆ ราคาถูก ได้โดยซื้อฝาที่มีพัดลมระบายอากาศขนาด 3.5 นิ้ว ติดสำเร็จรูปมาใช้วางลงบนใส้กรองอากาศโดยใช้งบประมาณรวมใส้กรอง 700 - 800 บาท พัดลมระบายอากาศนี้มีขนาดเล็ก ใช้ไฟฟ้าเพียง 4 วัตต์ มีกำลังไม่มากนัก จึงเหมาะกับการใช้งานในห้องขนาดเล็กๆ เช่น 16 - 20 ตารางเมตร
 
 
 


รูปที่ 9  พัดลมระบายอากาศและฝาครอบ


รูปที่ 10  การประกอบเป็นเครื่องฟอกอากาศ


รูปที่ 10A  การดัดแปลงเป็นเครื่องฟอกอากาศและดับกลิ่นในห้องน้ำ
 

 
  แบบที่ 3เครื่องฟอกอากาศแบบพัดลมดูดอากาศ 6 นิ้ว 220 V.  
  พัดลมดูดอากาศแบบที่ใช้ดูดควันในการทำครัวหรือใช้ดูดอากาศออกจากห้องแบบที่มีราคาถูกๆนั้น ก็สามารถนำมาดัดแปลงเล็กน้อยและใช้วางทับลงไปบนใส้กรองอากาศแบบที่ใช้ในเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ได้ พัดลมดูดอากาศดังกล่าวมีขนาด 4, 6 , 8, 10 และ 12 นิ้ว ใช้ไฟ 220 V. ซึ่งขนาดที่นำมาใช้กับใส้กรองอากาศ (21 x 29.5 ..) นั้น คือขนาด 6 นิ้ว โดยต้องนำมาดัดแปลง ถอดตะแกรงออกแล้วย้ายไปติดด้านลมออกแทน พัดลมนี้ใช้ไฟประมาณ 31 วัตต์ มีแรงดูดอากาศดี นำมาทำเครื่องฟอกอากาศ แม้จะดูไม่ค่อยสวยงามแต่ก็ใช้ฟอกอากาศสำหรับห้องขนาดพื้นที่ประมาณ 25 - 30 ตารางเมตรได้ดี โดยใช้งบค่าพัดลม 250 บาท รวมใส้กรองทั้งหมดประมาณ 700 บาท การคำนวณ Airflow Rate นั้น ทำวิธีเดียวกันกับที่แสดงไว้ข้างต้น ได้ Airflow Rate ประมาณ 180 cu.m/h
 
 
 


รูปที่ 11  การดัดแปลงพัดลมดูดอากาศ ขนาด 6 นิ้ว
 

 
 


รูปที่ 12  การประกอบเครื่องฟอกอากาศ ที่ใช้พัดลมดูดอากาศ 6 ิ้ว


รูปที่ 13  การวัดความเร็วลมที่ออกมาจากเครื่องฟอกอากาศ (Air Velocity)
(
ผ่านใส้กรองและแผ่นกรอง รวม 3 ชั้น)

 

 
  แบบที่ 4เครื่องฟอกอากาศแบบพัดลม 4.5 นิ้ว 12 V.  
  การทำเครื่องฟอกอากาศบบ DIY ที่ง่ายมากๆอีกแบบหนึ่งคือใช้พัดลมดูดอากาศที่ทำสำเร็จรูป (รูปที่ 14) มีฝาตะแกรงปิดทั้ง 2 ด้าน มีขนาด 4.5 นิ้ว ใช้ไฟจาก Adapter 220 / 12 V ซึ่งปรับความเร็วพัดลมได้ พัดลมนี้ใช้ไฟฟ้าประมาณ 6 วัตต์ ให้ลมแรงพอสมควร เมื่อนำมาใส่ลงในใส้กรองอากาศแบบของ Xiaomi ก็จะปิดได้พอดี และใช้เป็นเครื่องฟอกอากาศได้ จากการวัดความเร็วลมที่เป่าออกมาและคำนวณ Airflow Rate ตามวิธีข้างบน ได้ Airflow ประมาณ 120 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ซึ่งพอใช้ได้กับห้องที่มีขนาดประมาณ 25 ตารางเมตร สำหรับค่าใช้จ่ายนั้นเป็นค่าพัดลม 400 บาทและค่าใส้กรองอีก 400 บาท รวมเป็น 800 บาท
 
 
 


รูปที่ 14  พัดลมระบายอากาศขนาด 4.5 นิ้ว และ Adapter
 

 
 


รูปที่ 15  การวางพัดลมลงบนใส้กรองอากาศ
 

 
 


รูปที่ 16  เครื่องฟอกอากาศแบบ DIY


รูปที่ 17  เครื่องฟอกอากาศแบบ DIY ที่ใช้งานจริง
เปิด ปิด อัตโนมัติตามเวลาที่ตั้งไว้ ควบคุมโดย Wi - Fi Smart Plug
 

 
  สรุป  
  การประกอบเครื่องฟอกอากาศแบบ DIY ขึ้นใช้เองอาจมีความจำเป็น เช่น หาซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้ไม่ได้หรือต้องรอนานเป็นเดือน หรือมีราคาแพงขึ้นมาก หรือ ต้องการเครื่องฟอกอากาศมาเสริมกับเครื่องที่มีอยู่ หรือมีงบประมาณจำกัด ฯลฯ เป็นที่ทราบกันดีมาหลายปีแล้วว่าฝุ่น PM 2.5 จะมีมากปีละ 2 - 3 เดือน แต่การมีเครื่องฟอกอากาศไว้ก็สามารถใช้งานได้ตลอดไปเพราะกรองฝุ่นละออง ฯลฯ ได้ด้วยนอกจาก PM 2.5 การใช้เครื่องฟอกอากาศควบคู่กับเครื่องปรับอากาศก็จะช่วยให้ฝุ่นในห้องลดลง เครื่องปรับอากาศทำงานได้ดีขึ้น อาจจะทำให้ยืดเวลาการล้างแอร์ออกไปได้ เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะการล้างแอร์เดี๋ยวนี้ราคา 500 - 600 บาท ต่อเครื่อง สำหรับผู้ที่พักอาศัยในห้องเช่า คอนโดมิเนียม โดยทั่วๆไปห้องจะมีขนาด 25 - 30 ตารางเมตร ดังนั้น การใช้เครื่องฟอกอากาศแบบ DIY เพียง 1 เครื่อง ก็อาจเพียงพอเพราะไม่ได้มีคนเดินเข้าเดินออกจากห้องบ่อยๆ และประหยัดค่าไฟฟ้าได้ด้วย เช่น เครื่องฟอกอากาศแบบที่ 1 ถ้าเปิดวันละ 12 ชั่วโมง จะใช้ไฟฟ้าเดือนละ  (5.7 / 1000) x 12 x 30 = 2.052 หน่วยต่อเดือน หรือประมาณ 10 บาทต่อเดือน  
 

--------------------------------------

 
  ข้อมูลที่น่าสนใจ :
เครื่องฟอกอากาศเลือกอย่างไร วางตรงไหนดีที่สุด
เปรียบเทียบใส้กรอง Xiaomi

วิธีเลือกใส้กรอง
วิธีเลือกใส้กรอง Mi Air Purifier - ทำไมมีหลายสี
-  CADR คืออะไร
ตำแหน่งในการวางเครื่องฟอกอากาศ
Airflow และวิธีคำนวณ
 
 
  หมายเหตุ :  บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่และแบ่งปันประสบการณ์ในการใช้เครื่องฟอกอากาศแบบประกอบเอง (DIY - Air Purifier) ผู้เขียนไม่ได้ขาย หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโฆษณาสินค้าและการขายอุปกรณ์ต่างๆที่นำมาแสดง  


วันที่ 17 .. 2568
ปรับปรุงล่าสุด :
13 มี.. 2568