Digital Photography   Audio & Video   Computer Accessories   Software Applications | Home

ประวัติ
ผลงานและประสบการณ์
งานอดิเรก

GreyArrow1.gif (51 bytes)

เครื่องเสียง
GreyArrow1.gif (51 bytes) กล้องถ่ายรูป
GreyArrow1.gif (51 bytes) คอมพิวเตอร์
GreyArrow1.gif (51 bytes) รถยนต์
GreyArrow1.gif (51 bytes) กล้องวิดีโอ
GreyArrow1.gif (51 bytes) เว็บไซต์
งานชิ้นโบว์แดง
การประเมินความสำเร็จ
แกลลอรี่ภาพ
E-Books

  

www.bangkoksite.com

Bkklogosize3B.gif (10721 bytes)

Contact Us
somkiet@cscoms.com

รถยนต์ Mercedes-Benz E 250 CGI
BlueEfficiency Avantgarde Saloon                                             อ่านรายละเอียดเพิ่ม

รถยนต์เบนซ์ รุ่นใหม่ อี คลาส E 250 CGI

ผมได้ใช้รถ Mercedes-Benz E 200 Kompressor รุ่นปี 2544 มาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว เป็นรถที่ดีมาก
นั่งสบาย ขับสบาย อัตราเร่งดี แรงบิดก็ดี และกินน้ำมันไม่มาก คือวิ่งทางไกล ขับแบบปกติ ความเร็ว 100 - 120
กม./ชม. จะได้ถึง 12 กม./ลิตร (รถ Hybrid ใหม่ ใช้น้ำมัน Gasohol 95 วิ่งทางไกลได้แค่ 17 กม./ลิตร เท่านั้น
และถ้าใช้ Gasohol 91 ก็วิ่งได้ประมาณ 15 กม./ลิตร)

เป็นที่ทราบกันแล้วว่าทาง Mercedes-Benz ได้เริ่มจัดวางจำหน่ายรถเบนซ์ อี คลาส รุ่นใหม่ ซึ่งเรียกกันว่ารุ่นปี 2010
และทางบริษัทนำเข้ารถยนต์บางราย (Grey Market) ได้รับจองรถบางแบบไปแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก และในขณะนี้
ทาง Mercedes-Benz ก็ได้กำหนดวันเปิดตัวรถเบนซ์ อี คลาส รุ่นใหม่ คือ E 250 CGI BlueEfficiency Avantgarde
ในวันที่ 13 พ.ย. 2552 อย่างเป็นทางการ (สำหรับแขกรับเชิญ) และวันที่ 14 - 15 พ.ย. 2552 สำหรับประชาชนทั่วไป
ซึ่งคาดว่าจะได้รับการสั่งจองเป็นจำนวนมาก โดยรุ่นแรกจะเป็นรถยนต์นำเข้าจากประเทศเยอรมนี
และรุ่นที่ประกอบใน
ประเทศไทย จะออกมาในเดือนเมษายน
2553 คาดว่าราคาประมาณ 4.4 ล้านบาท


เมื่อศึกษาจาก Specifications และข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ พบว่า รถเบนซ์ E 250 นี้ มีความจุกระบอกสูบลดลง
เหลือเพียง 1,796 cc. แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ได้กำลังม้าถึง 204 แรงม้า และแรงบิดก็สูงขึ้นด้วย แต่อัตราความสิ้น
เปลืองน้ำมัน เพียง 15 - 16 กม./ ลิตร เมื่อวิ่งนอกเมือง นับว่าดีมาก ประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม 20% สำหรับรูปร่าง
ความสวย สง่างาม และหรูหรา นั้น เป็นเอกลักษณ์ของรถเบนซ์อยู่แล้ว รุ่นนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่น E200 ด้วย
สำหรับราคารถนั้น คงจะทราบในวันที่ 13 พ.ย. 2552 นี้ แต่เมื่อเทียบกับ Grey Market แล้ว ก็คงจะไม่ต่างกัน
มากนัก เพราะเป็นรถนำเข้ามาเหมือนๆกัน

Features พิเศษ (เมื่อเทียบกับ E 200 Kompressor)
มีระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับรถ (Attention Assist), ระบบเตือนแรงดันลมยาง, ระบบเพิ่มความ
ส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง, มีช่องแอร์สำหรับคนนั่งข้างหลัง ทั้งตรงกลาง และที่เสาประตูด้วย, มีระบบกดปุ่มที่ฝา
กระโปรงหลังเมื่อเปิดอยู่ จะปิดลงเองโดยอัตโนมัติ เป็นต้น


ภายในห้องโดยสาร รุ่นที่สั่งเข้ามาคือ E250 CGI มีเกียร์เหนือ
ปุ่มควบคุมการใช้งานของจอ


จอแสดงผลการใช้งานต่างๆ เช่น ระบบนำทาง Navigator
Audio วิทยุ DVD เป็นต้น โดยควบคุมจากปุ่มกลมๆใกล้ที่วางแขน


เบาะที่นั่งด้านหลัง สำหรับรุ่น E 250 CGI

ดูรูปภาพและข้อมูลเพิ่มเติมที่ Bangkoksite Motoring

เปรียบเทียบรายละเอียดด้านเทคนิค ระหว่าง E 250 CGI (รุ่นปี 2553) กับ E 200 Kompressor (รุ่นปี 2544)

 

รายการ

E 250 CGI
Avantgrage
(2010)

E 200 Kompressor
Elegance
(2001)

1 จำนวนกระบอกสูบ / การจัดเรียง แถวเรียง 4 สูบ แถวเรียง 4 สูบ
2 ความจุกระบอกสูบ 1,796 1,998
3 กำลังเครื่องยนต์ กิโลวัตต์ / แรงม้า ที่ รอบต่อนาที 150 (204) / 5,500 137 (186) / 5,300
4 แรงบิด (นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบต่อนาที) 310 / 2,000 - 4,300 260 / 2,500 - 4,800
5 อัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. (วินาที) 7.8  
6 ความเร็วสูงสุด ประมาณ (กม./ชม.) 238 226
7 อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ในเมือง (กม./ลิตร) 9.4 - 9.7  
8 อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน เฉลี่ย (กม./ลิตร) 12.5 - 13.2  
9 อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน นอกเมือง (กม./ลิตร) 15.6 - 16.4 11.8 - 12.5
10 อัตราส่วนกำลังอัด 9.3  
11 ความสูง (มม.) 1,470 1,441
12 ความกว้าง (มม.) 1,854 1,799
13 ความยาว (มม.) 4,868 4,818
14 น้ำหนักรถเปล่า (กก.) 1,650 1,580
15 น้ำหนักที่สามารถบรรทุกได้ (กก.) 535 500
16 น้ำหนักรวม (กก.) 2,185 2,080
17 พื้นที่บรรทุกของ (ลิตร) 540  
18 ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 80 65
19 ขนาดยาง หน้า - หลัง 245 / 45 R17  
       
หมายเหตุ :
CBU = Completely Built Unit หรือ Car imported completely built).
CGI (Charged Gasoline Injection) : เทคโนโลยีแบบ CGI มีความโดดเด่นเรื่องพละกำลังรถยนต์แรงแบบต่อเนื่องแต่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันลดลง 10 เปอร์เซ็นโดยประมาณ เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นค่ายแรกที่คิดค้นเทคโนลียี CGI และได้นำไปใช้ครั้งแรกในรถรุ่น CLS 350 CGI
ในปี 2006 ต่อมาได้ขยายไปรุ่น E 200 CGI BlueEFFICIENCY และ E 250 CGI BlueEFFICIENCY เป็นต้น ซึ่งสองรุ่นนี้สามารถ
ระหยัดน้ำมันขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ และปล่อยไอเสียน้อยมาก โดยรวมแล้วเมอร์เซเดส-เบนซ์จะใช้เทคโนโลยี CGI ในรถยนต์แบบ 4 และ 6 สูบ

BlueEFFICIENCY: เป็นเทคโนโลยีทรงประสิทธิภาพที่สุดในด้านการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ด้วยหลักการทำให้รถยนต์มีน้ำหนักเบาขึ้นอย่างชาญฉลาดไม่ว่าจะเป็นที่โครงสร้างรถ การลดน้ำหนักกระจกหน้ารถ ในพวงมาลัย การเลือกใช้ยางที่มีแรงเสียดทานต่ำและการทำให้รถลู่ลมมากที่สุด รวมถึงการสตาท์เครื่องด้วยปุ่ม start/stop ด้วย โดยรถที่เป็น BlueEFFICIENCY จะประหยัดน้ำมันขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์โดยประมาณ รถรุ่นที่ใช้เทคโนโลยี BlueEFFICIENCY ผลิตแล้วในทุกเซ็กเมนต์ อาทิ A-, B-, C-, E- และ S-Class โดยรุ่นที่จะนำมาเปิดในไทยจะเป็นระดับ E-Class คือ E 250 CGI BlueEFFICIENCY

 

 


ตั้ง
แต่วันที่ 8 พ.ย.2552